หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
รู้ทิศทาง รู้ทำ รู้ทนทาน
รู้ทิศทาง รู้ทำ รู้ทนทาน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
คนที่ประสบความสำเร็จ เขามักจะรู้ความต้องการของตนเอง ว่าเขามีความต้องการอะไรในชีวิตอย่างแท้จริง และเมื่อเขารู้แล้วว่า เขามีความต้องการอะไร อยากเป็น อยากทำอะไร เขาจะใช้เวลาทุกวินาที อย่างมีประสิทธิภาพ
รู้ทิศทาง : หากว่าเราต้องการประสบความสำเร็จ เรามีความจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า เรามีความต้องการอะไร เรามีเป้าหมายอะไร ความฝันของเราคืออะไร ดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องค้นหาตัวเองให้เจอเสียก่อน ถ้าหากว่าพวกเรายังค้นหาตนเองยังไม่เจอ ผมขอแนะนำว่า เราจำเป็นจะต้องลงทุนกับตัวเราเองก่อน เราต้องลงทุนกับความคิดของเราก่อน จงหาที่เงียบๆ จงหลบหนีผู้คนไปสักระยะก่อน แล้วลองทบทวนว่า ตนเองมีความต้องการอะไร ถ้ายังไม่เจอ ก็ลองเข้าห้องสมุดที่ใหญ่หน่อย มีหนังสือมากหน่อย จงลองลงทุนอ่านหนังสือที่เราชอบ แล้วเราจะพบอะไรบ้างอย่าง จงหัดใช้ชีวิตอยู่ด้วยตนเอง สักระยะ แล้วคุณจะพบอะไรบางอย่างกับตัวคุณเอง ชีวิตของคุณ ทิศทางของคุณ
สตีฟ จอบส์ เคยพูดไว้ ก่อนตาย ว่า ตัวเขาโชคดีที่รู้จักตนเองว่าตนเองชอบคอมพิวเตอร์ แล้วเขาก็แนะนำนักศึกษาหรือบุคคลต่างๆว่า จงค้นหาตัวเองให้เจอ ว่าตนเองต้องการอะไร ชอบอะไร ถึงแม้จะต้องค้นหาตลอดชีวิตก็ตาม
Ray Kroc (เรย์ คร็อก) อยากเป็นเศรษฐี อยากที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ เขาเริ่มทำแฟรนไชส์ยี่ห้อแม็คโดนัลด์ ตอนอายุ 52 ปี แต่ตอนที่เขาทำงานในอดีต เขาต้องลำบาก เขาต้องอดทนมาก เขาต้องเป็นพนักงานขายถ้วยกระดาษมาก่อน และเมื่อเขารู้ทิศทางของตนเอง แฟรนไชส์แฮมเบอร์เกอร์ แม็คโดนัลด์ ซึ่งขายไปทั่วโลกก็กำเนิดขึ้น
Harland Sanders(ผู้พัน แซนเดอร์ส) เคยลำบากมาก ภรรยาพาลูกหนีออกจากบ้านและถามหย่า เขาเปลี่ยนแปลงงานที่ทำบ่อย จนกระทั่งเกษียณอายุจากราชการ เขารู้ว่าเขาชอบทำอาหารและรู้ว่า เขาทำไก่ทอดได้อร่อยมากๆ เมื่อเขารู้ทิศทางของตนเองแล้ว เขาก็มาขายไก่ทอด แล้วเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ KFC ตอนอายุ 60 ปี
รู้ทำ : เมื่อรู้ว่าตนเองมีทิศทางอย่างไรแล้ว ที่เนี่ยเราต้องรู้ว่า เราจะต้องทำอะไรต่อไป ในขั้นตอนนี้ ขอให้ท่านไปดูบุคคลที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกหรือในระดับประเทศ หรือบุคคลที่ท่านต้องการจะเป็น แล้วลองอ่านประวัติของเขา ว่าเขาใช้วิธีหรือมีวิธีใดหรือทำอย่างไร ถึงประสบความสำเร็จ แล้วเราก็ลงมือทำตามเขา เช่น บางคนอยากที่จะเป็นนักพูดระดับโลก เราก็ควรไปศึกษาชีวิตของ นักพูดระดับโลกว่าเขาทำอย่างไรถึงเก่ง ถึงประสบความสำเร็จ แล้วเราก็ลองทำแบบเขา
บางคนอยากเป็นวิทยากรระดับโลกอย่าง Brian Tracy (ไบรอัน เทรซี่) เราก็ควรดูว่าเขาได้ทำอะไรลงไปบ้าง แล้วเราก็ควรทำเช่นเดียวกับเขา Brian Tracy(ไบรอัน เทรซี่) กว่าที่เขาจะเป็นวิทยากรระดับโลก เขาต้องอ่านหนังสือเป็นจำนวนมาก เขาต้องเขียนหนังสือ เขียนบทความเป็นจำนวนมาก เราก็ควรหัดเขียนและทำหนังสือขึ้นมาบ้าง เขามีคลิปบรรยายให้ความรู้ลงในสื่อต่างๆ เช่น มีเทป มีคลิปลง Youtube มี DVD มี CD มีเว็ปไซค์ มีการทำหลักสูตรต่างๆ เพื่อที่จะบรรยาย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ เราก็ต้องหัดทำ หัดผลิตตามเขา แล้วเราก็จะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
รู้ทนทาน : คนที่จะประสบความสำเร็จ ไม่ได้อะไรง่ายๆ ถ้าคุณคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จได้อะไรมาง่ายๆ คุณคิดผิด ถ้าคุณคิดว่า คนที่ประสบความสำเร็จได้อะไรมาง่ายๆ คุณคิดผิด แต่คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะต้องทุ่มเท เขาจะต้องอดทน เขาจะต้องทนทาน เขาจะต้องพบกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า เขาจะต้องลำบาก เขาจะต้องร้องไห้ เขาจะต้องเสียเวลา สละเวลาทำงานซึ่งหนักและมากกว่าคนทั่วไป ฯลฯ
Sun Yat Sen (ซุน ยัด เซน) เขามีอุดมการณ์ เขามีทิศทางเป็นของตนเองคือต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศจีน ในการทำงาน เขาต้องหลบหนี บุคคลหรือศัตรูที่ตามฆ่าเขา เขาต้องปลอมตัว เขาต้องเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆในประเทศจีนเพื่ออธิบายแนวคิด อุดมการณ์ของเขา เขาล้มเหลวในการปฏิวัติประเทศจีน ถึง 10 ครั้งในเมืองต่างๆ(1.กวางโจว 2.ฮุยโจว 3.เชาโจว 4.ฮุยโจว 5.ชิงโจว 6.เซิ่นหนานกวาน 7.กวางโจว เลียนโจวและชางสี่ 8.ยูนาน อีโฮว 9.กวางโจว 10.กวางโจว) แต่เขาก็ยังพยายามต่อไป จนประสบความสำเร็จในการปฏิวัติในครั้งที่ 11 ที่เมืองวูจาง เขาได้รับชัยชนะและกลายเป็นบิดาแห่งจีน อีกทั้งยังเป็นประธานาธิบดีแห่งชาติของสาธารณรัฐจีนไต้หวันเมื่ออายุ 46 ปี
ฉะนั้น หากว่าท่านต้องการที่จะประสบความสำเร็จ ท่านจะต้อง รู้ทิศทางว่าท่านต้องการอะไร มีเป้าหมายอะไรในชีวิต ท่านจะต้องรู้ทำคือรู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง จึงจะประสบความสำเร็จ และท่านจะต้องรู้ทนทาน คือ รู้จักคำว่า อดทน อดกลั้น อดออม และท่านจะต้องทนทานกว่าคนทั่วไปนั่นเอง
...
  
พ่อแม่ รังแกฉัน
โดย....ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อันชนกชนนีนี้รักเจ้า เทียมเท่าชีวาก็ว่าได้
เมื่อ สมัยเด็กๆ เมื่อตอนที่กระผมกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียน กระผมได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งมีเนื้อหาที่ดีและให้แง่คิดมาก กระผมคิดว่าคนรุ่นวัย 20 ปี ขึ้นไป หลายคนคงได้อ่านเช่นกัน หนังสือเล่มนั้นก็คือ หนังสือเรื่อง “ พ่อแม่ รังแกฉัน “ เนื้อ เรื่อง เท่าที่จำได้ พอสรุปได้ว่า เป็นเรื่องราวความรักของพ่อแม่ที่ผิดพลาดโดยการ “ ตามใจ” เรื่องมีอยู่ว่าพ่อแม่ เป็นเศรษฐี รักลูกมากๆ มีอะไรก็หามาให้ ตามใจสารพัด ใครจะว่า กล่าวด่าลูกก็ไม่ได้ ลูก จะผิดจะถูกอย่างไรก็ไม่เคยเตือน สอนสั่ง เมื่อลูกไม่สนใจการเรียนก็ไม่เคยเตือน จนลูกเข้าสู่วัยรุ่น ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยไม่เคยห้าม คบเพื่อนไม่ดี พากันไปเที่ยว พากันไปกินเหล้า พากันเที่ยวไม่ยอมเรียนหนังสือ พ่อแม่ก็ไม่ว่า ตามใจทุกอย่าง จนเมื่อลูกโตใหญ่และพ่อแม่ก็แก่ตามไปด้วย ปรากฏลูกเศรษฐี เอาไม่รอด ความประพฤติชั่วช้า จนพ่อแม่ตายไปชีวิตที่ร่ำรวยเงินทองจากพ่อแม่ก็กลับเป็นยากลำบาก เพราะหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ในที่สุดต้องกลายเป็นขอทาน ตอนเป็นขอทานกลับไม่สำนึก โทษพ่อแม่ว่าเป็นความผิดที่ตามใจ(รังแกฉัน) จนกระทั่งได้พบกับซินแส ได้เล่าเรียนจนประกอบอาชีพได้
นี่คือ ยาพิษของการเลี้ยงลูกด้วยการตามใจ
หนังสือ เล่มนี้ สอนให้รู้ว่า พ่อแม่ ที่รักลูกมากเกินไป ตามใจเกินไป ใครว่ากล่าว สั่งสอนไม่ได้ ในที่สุด เมื่อลูกโตใหญ่ขึ้น ก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่เอาตัวไม่รอด
ฉะนั้น ความรักจึงเป็นเสมือนดาบสองคม ด้านหนึ่งถูกใช้ในการถากถางในการดำเนินชีวิตและอีกด้านหนึ่งก็อาจเป็นอาวุธ ที่ร้ายแรงคอยทิ่มแทงผู้ที่ใช้ความรักได้เช่นกัน
และ ถ้าจะให้ดี ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษาก็ควรที่จะให้เด็กไทยรุ่นใหม่ได้มีโอกาส อ่าน วรรณกรรมประเภทเหล่านี้ให้มากๆ ในโรงเรียนถ้ากระผมจำไม่ผิด หนังสือเรื่อง “ พ่อแม่รังแกฉัน” น่าจะเป็นหนังสือคำประพันธ์บางเรื่องของ ท่านพระยาอุปกิตศิลปสาร
ใน สังคมไทยเราปัจจุบันมีมากมาย ไม่ว่าเศรษฐี ไม่ว่าชาวไร่ชาวนา หาเช้ากินค่ำ ผู้หลักผู้ใหญ่บางคน ที่สอนลูกในลักษณะนี้ คือ ตามใจลูก ลูกผิดครูสั่งสอนก็ไม่ได้ ใครจะเตือนก็ไม่ได้ จึงทำให้เด็กเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จึงมีนิสัย ที่ชั่วร้าย ไม่โต ควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ได้
ในสังคมไทยเราปัจจุบันเราต้องยอมรับเลยว่า การเลี้ยงลูกในสมัยนี้ยากกว่าสมัยก่อน มาก เพราะ
สังคมปัจจุบันเรามีสิ่งเร้า สิ่งยั่วยุ สิ่งเสพติด สิ่งอบายมุข การพนัน เกมส์ และรวมทั้งสื่อลามกอนาจารเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น วิธีการเลี้ยงดูลูกหลาน จึงต้องเปลี่ยนแปลงจากอดีต พ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลให้เวลาลูกหลานเพิ่มมากขึ้น มีศาสตร์และมีศิลป์ในการสอน และต้องมีวิธีการดูปัญหา แก้ปัญหา เป็นระบบ
ไม่ มองจุดเดียว เพราะปัญหาของเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน ค่อนข้างเชื่อมโยงกัน เช่น ปัญหาเด็กติดเกมส์ก็มักจะทำให้เด็กเสียการเรียน ร้านเกมส์บางร้านอาจเป็นแหล่งมั่วสุม ซึ่งเป็นที่มาของการขายยาเสพติด การล่อลวงเด็กไปมีเพศสัมพันธ์ เมื่อเด็กต้องการเล่นเกมส์ ต้องการหาเงินไปซื้อยาเสพติด ก็จะเกิดปัญหาลักขโมยตามมา เด็กบางคนอาจมีปัญหามากจนเกิดอาการซึมเศร้า จนกระทั่งต้องฆ่าตัวตายก็มี และยังมีปัญหาที่เชื่อมโยงกับปัญหาเหล่านี้อีกมากมาย
เรา จะเห็นได้ว่าปัญหาเด็กและเยาวชน เป็นปัญหาที่ใหญ่ และถ้ายังไม่ช่วยกันแก้ อนาคตของประเทศไทยเราก็คงต้องแย่ เพราะ เด็กและเยาวชนก็คืออนาคตของชาติ (เด็กในวันนี้เป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า)
ความรักความห่วงใย คือ สายใยของครอบครัว

...
  
สาธารณสุขกับประชาคมอาเซียน
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยายหัวข้อ เรื่อง "สาธารณสุขกับประชาคมอาเซียน" ซึ่งหลักสูตรผู้บริหารการสาธารณสุข ระดับต้น จัดรุ่นที่ 25 ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน 2558 ถึงวันที่ 17 กรกฏาคม 2558 โดยผู้อบรมเข้ารับการอบรมเดินทางมาจากทั่วประเทศ ณ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี ...
  
บางครั้งการล้มเหลวก็เป็นสิ่งที่ดี
บางครั้งการล้มเหลวก็เป็นสิ่งที่ดี
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
“ สิ่งที่คนอื่นมองเห็นเกี่ยวกับความสำเร็จของผมมีแค่ 1 % แต่สิ่งที่เขามองไม่เห็นอีก 99 %
คือความล้มเหลว” Soichiro Honda(โซอิจิโร ฮอนด้า)
คนเราส่วนใหญ่เมื่อได้อ่าน ได้ฟัง บุคคลที่ประสบความสำเร็จ มักจะชื่นชม ยินดี และแสดงความภาคภูมิใจกับคนที่ประสบความสำเร็จว่า เขาทำไมถึงเก่งขนาดนั้น เขาทำไมโชคดี พระเจ้าช่วยเขาให้ประสบความสำเร็จ แต่จริงๆแล้ว รางวัลต่างๆที่เขาได้รับ มีเบื้องหลังเสมอ เบื้องหลังนั้นก็คือ คำว่า “ ล้มเหลว” ซึ่งมีอยู่เต็มไปหมด
มีนักขายมือทองคนหนึ่ง เพื่อนๆนักขายด้วยกันมักพูดว่า เขาทำไมถึงโชคดีจริงๆ แต่หารู้ไหมว่า กว่าที่เขาจะขายได้ เขาได้นำเสนอลูกค้าเป็น สิบราย เป็นร้อยราย นักขายประกันชีวิตมืออาชีพท่านหนึ่งเคยเล่าให้กระผมฟังว่า “ นักขายหลายคนบอกว่า เขาโชคดี เขาตอบกลับว่า โชคดีบ้าอะไร เสนอขายเป็น 20 ราย ได้แค่รายเดียว ” แต่พวกเราลองไปสอบถาม นักขายที่โชคร้ายซิ ทำไมถึงขายไม่ได้ เพราะมันขายแค่รายเดียว แล้วมันก็บอกกับทุกคนว่า โชคร้ายขายไม่ได้ ฉะนั้น ถ้าเราอยากโชคดี เราต้องพบกับความล้มเหลว ต้องพบกับการถูกปฏิเสธ ยิ่งมาก ท่านก็ยิ่งพบกับคำว่า “โชคดี”
- สองพี่น้องตระกูลไรท์ กว่าจะผลิตเครื่องบินลำแรกของโลกได้ เขาต้องพบกับความ
ล้มเหลว เป็นจำนวนมาก ยิ่งพวกเขาพบกับความล้มเหลวมากเท่าไร เขาก็ยิ่งเข้าใกล้กับความสำเร็จมากขึ้นทุกขณะ
- โทมัส อัลวา เอดิสัน นักประดิษฐ์เอกของโลก กว่าเขาจะประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าดวงแรกของโลก
ได้ เขาต้องพบกับความล้มเหลวถึงกว่าพันครั้ง มีคนเคยไปถาม โทมัส อัลวา เอดิสัน ว่า อัจฉริยะเกิดจากอะไร โทมัส อัลวา เอดิสัน ตอบว่า “ อัจฉริยะเกิดจากแรงบันดาลใจแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ แต่เกิดจากความพยายาม 99 เปอร์เซ็นต์” จากคำตอบนี้เราจะเห็นได้ว่า โทมัส อัลวา เอดิสัน พบกับความล้มเหลวเป็นจำนวนมาก แต่เขาก็ยังมานะพยายามจนกระทั่งสำเร็จ
- อับราฮัม ลินคอล์น อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เขาประสบกับความล้มเหลวและเปลี่ยนแปลง
อาชีพอยู่บ่อยๆเช่น เปิดร้านขายของชำ เป็นช่างสำรวจ เป็นทหาร เป็นพนักงานไปรษณีย์ ฯลฯ
ต่อมาเขาลงสมัครรับเลือกตั้งทางการเมือง เขาต้องพบกับความล้มเหลวและพ่ายแพ้จากการเลือกตั้ง
อย่างมากมายหลายครั้งเช่น แพ้การเลือกตั้งฝ่ายนิติบัญญัติปี 1832 แพ้การเลือกตั้งในการเป็นโฆษกปี 1838 แพ้การเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรปี 1848 แพ้การเลือกตั้งวุฒิสภาปี 1855 แพ้การเลือกตั้งรองประธานาธิบดีปี 1856 แพ้การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาปี 1858 และในที่สุดปี 1860 เขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐ ทำไมเขาถึงได้เป็นประธานาธิบดี ก็เพราะเขาไม่ยอมแพ้ เมื่อพบกับความล้มเหลว บางครั้งความล้มเหลวก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้เราได้พบกับความเข้มแข็ง ความฉลาด ความอดทน ความพยายาม ความเอาตัวรอด
- อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบล กว่าจะคิดค้นโทรศัพท์เครื่องแรกของโลกได้ เขาต้องพบกับ
อุปสรรค พบกับความล้มเหลวนานาชนิด แต่เขาไม่หยุดตรงความล้มเหลว เขาพยายามทำต่อไป เขาพยายามค้นหาต่อไป จนในที่สุด โทรศัพท์ เครื่องแรกของโลกก็เกิดขึ้น
- ผู้พันแซนเดอร์ส หรือ ผู้พัน KFC ต้องการที่จะขายสูตรไก่ทอด เขาต้องเดินทางไปทั่วประเทศ
เพื่อเสนอขายสูตรไก่ทอดและขายแฟรนไชส์ เขาต้องพบกับคำว่าล้มเหลวหรือคำปฏิเสธมากถึง 1,009 ครั้ง ก่อนที่จะมีนักธุรกิจท่านหนึ่งตอบตกลงซื้อสูตรไก่ทอดของเขา
คำถามคือ ถ้าท่านเป็นผู้พันแซนเดอร์สหรือผู้พัน KFC ถ้าท่านไปเสนอขายสูตรไก่ ท่านสามารถอดทนต่อคำปฏิเสธและคำว่าล้มเหลว ได้เพียงกี่ครั้ง โดยส่วนตัวกระผมเชื่อแน่ได้ว่า คนส่วนใหญ่เสนอขายสูตรไก่ทอด ไม่ถึง 1,009 ครั้ง ก็ยอมแพ้เสียแล้ว
ฉะนั้น จงกล้าที่จะล้มเหลว เพราะในบางครั้งความล้มเหลวก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะมันคือบททดสอบการต่อสู้ ถ้าเรากลัวกับคำว่าล้มเหลว เราก็ต้องอยู่กับที่ไม่ไปไหน เราจะไม่มีวันพบกับความสำเร็จ ความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการทำงาน จงกล้าที่จะล้มเหลว เพราะมันคือสิ่งที่คุณจะต้องได้รับ ถ้าหากว่าคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จ
...
  
ผมมีความฝัน ฉันมีความฝัน
ผมมีความฝัน ฉันมีความฝัน
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ผมไม่รู้ว่าอะไรคือความฝันของคุณ ผมไม่รู้ว่าคุณเคยผิดหวังจากความล้มเหลวในการเดินตามความฝันสักกี่ครั้ง แต่ผมขอบอกว่า “ ความฝันของพวกเรามันเป็นไปได้ ” หลายคนมักท้อแท้ที่จะทำตามความฝันของตนเพราะมันยาก ผมเองก็ยอมรับว่า มันยากที่จะทำตามความฝัน เพราะ หลายคน ล้มเหลว ผิดหวัง ร้องไห้ เสียใจ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เมื่อพบกับความผิดหวัง จนแทบอยากฆ่าตัวตาย
หลายคน เข้าวัด ฟังธรรม หลายคนได้แต่ถามพระเจ้าว่า ทำไม ฉันถึงไปไม่ถึงความฝัน ทำไมคนไม่ดี คนชั่วถึงได้ร่ำรวยและประสบความสำเร็จ ฉันไม่เคยทำชั่ว ฉันไม่เคยทุจริต ฉันไม่เคยโกงใคร ฉันไม่เคยทำบาป แต่ทำไม พระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึง ไม่ยอมช่วยฉันให้ประสบความสำเร็จ ฉันทำผิดตรงไหน ฉันทำผิดอะไร
ความคิดเหล่านี้ เป็นสิ่งที่กระผมเคยเจอมาก่อน กระผมขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่ผิดหวัง เสียใจ ร้องไห้ เหน็ดเหนื่อย หมดหวัง ท้อแท้ และขอบอกว่า ช่วงเวลาดังกล่าวมันจะอยู่ได้ไม่นานแล้วมันก็จะจากไป มันก็จะผ่านพ้นไป จงอดทน จงอดทน จงอดทน เข้าไว้
แต่ถ้าคุณยอมแพ้ ที่จะทำตามความฝัน คุณก็เป็นแค่ คนธรรมดา ซึ่งเหมือนกับคนส่วนใหญ่ในโลก มีชีวิตธรรมดา มีครอบครัว มีลูก มีบ้านแล้วก็แก่ตายจากโลกนี้ไป แต่ถ้าคุณยังมีความฝันและยังคิดถึงมัน พยายามที่จะทำตามความฝัน คุณต้องไม่หยุดที่จะเติบโต คุณต้องไม่หยุดในการพัฒนาตนเอง คุณต้องไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ คุณต้องไม่หยุดที่จะกระตือรือร้น จงสร้างความเชื่อมั่นในตัวคุณเอง จงอย่ากลัว จงอย่ากลัวที่จะล้มเหลว จงอย่ากลัวที่จะผิดหวัง
คุณต้องกล้าที่จะสำเร็จ คุณต้องกล้าที่จะแตกต่างจากคนอื่นๆ ผมอยากให้คุณลงทุนกับความคิดของคุณ จงแยกตัวออกจากคนที่คุณรู้จักเขาและเขารู้จักคุณ จงไปในที่ที่สักแห่งหนึ่ง จงอยู่กับความคิดของตัวคุณเอง จงถามตัวคุณเองว่า “ คุณเป็นใคร” “อะไรกันแน่ที่คุณต้องการในชีวิต” “ คุณอยากประสบความสำเร็จในด้านใด” “ คุณอยากเป็นอะไร”
เช่น คุณอยากเป็นหมอ คุณอยากเป็นทนายความ คุณอยากเป็นนักธุรกิจ คุณอยากเป็นนักพูด คุณอยากเป็นนักเขียน ฯลฯ ผมอยากจะบอกว่า คุณสามารถเป็นอะไรก็ได้ ถ้าคุณต้องการมันจริงๆ คนเราเกิดมาไม่มีแผ่นป้ายผูกติดที่ข้อมือว่า เป็นใครหรือ ผูกติดที่ข้อเท้า หรือ เขียนไว้ในร่างกายว่าเป็นอะไร แต่คนเราสามารถเป็นอะไรก็ได้ด้วยการฝึกฝน ด้วยความพยายาม ด้วยความมานะ บากบั่น ทุ่มเท ที่จะเป็นมันจริงๆ
ถ้าคุณอยากเป็นมันจริงๆ ผมขอท้าทายให้คุณเข้าห้องสมุด อ่านหนังสือ ประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จในด้านที่คุณอยากเป็น แล้วคุณจะเกิดความคิดที่ขยายกว้างขึ้น คุณจะมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น เพราะกว่าคนที่ประสบความสำเร็จจะประสบความสำเร็จเขาต้องผ่านช่วงเวลาที่ลำบากมาก่อน หากว่าคุณคิดว่า ความสำเร็จได้มาง่ายๆ คุณคิดผิด ถ้าคุณคิดว่า ความสำเร็จได้มาง่ายๆ คุณคิดผิด เบื้องหลังของความสำเร็จที่ได้มาทุกคนต้องลำบากมาก่อน
ถ้าคุณยังมีความฝัน ถ้าคุณยังคงพูดถึงความฝันของคุณอยู่ แต่คุณยังไม่ได้ทำอะไร ผมขอแนะนำให้คุณเริ่มลงมือทำ จงก้าวออกไป จงก้าวออกไป หาความฝันของตนเอง ดังเช่นคำสุภาษิตจีนโบราณว่าไว้ “ ระยะทางหมื่นลี้ ต้องเริ่มจากก้าวแรก” จงก้าวออกไป จงก้าว ก้าวแรกออกไป เพื่อไปสู่ความฝัน จงทบทวนความฝันทุกๆวัน และกระผมเชื่อมั่นว่า ความฝันของคุณจะเป็นจริงสักวันหนึ่ง คุณสามารถมีชีวิตและประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ก็ด้วยความฝันของคุณเอง

...
  
หลักการเขียนบทความ
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
http://www.drsuthichai.com/
ลับปากกาคอยอนาคต เพราะการเขียนดี เป็นเครื่องมือสำคัญในความก้าวหน้าของท่าน
ถ้าพูดถึงเรื่องงานเขียน งานเขียนมีหลายประเภทเช่น การเขียนนิทาน การเขียนเรื่องสั้น การเขียนเรียงความ การเขียนบทละคร การเขียนสารคดี การเขียนนวนิยาย การเขียนบทความ ฯลฯ
ถ้ามีคนถามกระผมว่า แล้วผมชอบงานเขียนประเภทใด กระผมขอตอบแบบไม่คิดว่า กระผมชอบงานเขียนประเภทการเขียนบทความครับ แล้วกระผมก็มีโอกาสเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและระดับประเทศเฉพาะเดือนละไม่ต่ำกว่า 15 บทความ ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับบรรดานักเขียนที่มีผลงานเป็นประจำ ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจเป็นเพราะว่ากระผมทำงานประจำและทำงานหลายด้านจึงไม่ค่อยมีเวลาเขียน
แต่การที่กระผมได้มีโอกาสเขียนบทความเดือนละไม่ต่ำกว่า 15 บทความต่อเดือน แล้วเขียนมานานกว่า 10 ปี จึงอยากเขียนบทความฉบับนี้เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ให้แก่ท่านผู้อ่านและถ้าท่านผู้อ่านมีอะไรเพิ่มเติมก็สามารถเสนอความคิดเห็นถึงกระผมได้ครับ
บทความ หมายถึง ความเรียงร้อยแก้ว ที่เขียนขึ้นเพื่อแสดงความคิดเห็นของผู้เขียน โดยมีหลักฐานประกอบ อ้างอิง แต่ควรมีความคิดเห็นของผู้เขียนมากกว่าการแสดงข้อมูลหลักฐานต่าง เพราะถ้ามีข้อมูลมากๆ ก็จะกลายเป็นรายงานไปในที่สุด
การเขียนบทความที่ดีควรจะมีลักษณะคือ ต้องมีความน่าสนใจ มีเนื้อหาที่แปลกใหม่ มีความกะทัดรัด มีการอ้างอิง และมีวิธีการเขียนที่น่าสนใจชวนให้ติดตาม
หลักการเขียนบทความที่ดี ควรมีโครงเรื่องแบ่งออกเป็น 3 ตอน คือ มีคำนำ มีเนื้อเรื่องและมีสรุปจบ ซึ่งทั้ง 3 ตอน ต้องมีความสอดคล้องกัน สัมพันธ์กัน อาจลำดับความตามเวลา อาจลำดับความจากเหตุไปสู่ผล อาจลำดับความจากคำถามไปสู่คำตอบ
สำหรับ ชื่อเรื่อง ควรตั้งชื่อให้เป็นที่น่าสนใจ เมื่อคนอ่านแล้ว อยากรู้ อยากอ่านว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร
ลักษณะของการเขียนบทความที่ดีจะต้องมีการแสดงความคิดเห็นของผู้เขียน ที่แหลมคม มีเหตุมีผล มีความคิดที่ลึกซึ้งกว่านักเขียนคนอื่นๆ ขณะเดียวกันการนำเสนอ สำนวนโวหาร ที่ดีจะเป็นส่วนช่วยให้งานเขียนบทความเกิดความน่าอ่านยิ่งขึ้น
งานเขียนแบ่งออกเป็นหลายประเภท สำหรับงานการเขียนบทความก็แบ่งออกเป็นหลายประเภทเช่นกัน เช่น งานเขียนบทความประเภทวิจารณ์ บทความสัมภาษณ์ บทความเชิงวิชาการ บทความวิเคราะห์ บทความชีวประวัติ บทความให้คำแนะนำ เป็นต้น
ท้ายนี้กระผมอยากฝากคำแนะนำสำหรับท่านผู้อ่านที่ต้องการเขียนบทความ เริ่มแรกท่านควรเลือกเขียนเรื่องที่ตนเองถนัด มีประสบการณ์ ท่านก็สามารถเขียนเรื่องนั้นได้ง่ายกว่าการที่ท่านเลือกเรื่องที่ตนเองไม่มีความรู้ ไม่มีความถนัด เมื่อท่านสามารถเขียนบทความจากเรื่องที่ตนถนัดแล้ว ท่านจะเริ่มมีทักษะในการเขียนบทความ และเมื่อท่านต้องการให้บทความท่านเป็นที่นิยมหรือผู้อ่านรู้จัก ท่านก็ควรเขียนบทความในเรื่องที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจ
อีกทั้งไม่ควรใช้ถ้อยคำที่ฟุ่มเฟือย ไม่เขียนวกวน ควรเขียนคำให้ถูกต้อง ควรมีพจนานุกรมไทยเป็นของตนเอง ควรมีย่อหน้าให้เหมาะสม เพราะการมีย่อหน้าจะทำให้ผู้อ่านอ่านบทความของท่านได้ง่ายกว่าการไม่มีย่อหน้า ต้องแสดงข้อมูลหลักฐานที่เป็นความจริง เช่น สถิติ ตัวเลข แผนภูมิ ถ้าหากจะใช้วิธีการเขียนบทความแบบตั้งคำถามแก่ผู้อ่าน ก็ควรหาคำตอบไว้เป็นลำดับ และต้องมีความกล้าหาญในการแสดงความคิดเห็น แต่เป็นความคิดเห็นประเภทสร้างสรรค์ ไม่ใช่ความคิดเห็นในทางทำลาย
ไม่มีน้ำตา เสียงหัวเราะจากนักเขียนก็ไม่มีน้ำตาและเสียงหัวเราะจากผู้อ่าน



...
  
ทำไมเราถึงล้มเหลว
ทำไมเราถึงล้มเหลว
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
พวกเราหลายคนรู้อยู่แล้วว่า โลกของเราไม่ได้สวยงามตลอดเวลา เส้นทางเดินในชีวิตของคนเราไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกกุหลาบ หลายคนร้องไห้กับชีวิต บางครั้งมันแสนที่จะเจ็บปวด บางครั้งความสำเร็จมันทำไมถึงยากเย็นแสนเข็ญ
มันเหมือนกับการชกมวย มันไม่สำคัญว่าคุณจะต่อยหนักขนาดไหน มันไม่สำคัญว่าคุณจะชกกี่ครั้ง แต่มันสำคัญที่เวลาที่คุณถูกคู่ต่อสู้ชก จนล้มลงไป คุณจะลุกขึ้นมาได้กี่ครั้งต่างหาก จงลุกขึ้นมาเพื่อต่อสู้ใหม่ หรือว่าจะนอนรอให้กรรมการนับ แล้วแพ้ไป
ทำไมคุณถึงเอาชนะไม่ได้ ทำไมคุณถึงเป็นคนที่เก่งในสาขาวิชาชีพคุณไม่ได้ คำตอบคือ คนเก่งหลายคนมีพรสวรรค์ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ ทักษะ ทักษะจะต้องเกิดจากการฝึกฝน เป็นเดือน เป็นปี เป็นจำนวนมากคุณถึงจะเก่ง ถ้าคุณมีพรสวรรค์ในการเขียน แต่คุณไม่เริ่มต้นที่จะเขียน อีกทั้งคุณฝึกฝนน้อยมากเมื่อเทียบกับอีกคนที่ไม่มีพรสวรรค์เลย แต่เขาฝึกเขียนทุกๆวัน เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี แน่นอน เขาย่อมเก่งกว่าคุณที่มีพรสวรรค์แต่ไม่ยอมที่จะฝึกฝน
ถ้าเรามีความฝัน เราอย่าให้คนที่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันมาทำลายความฝันของเรา แต่เราต้องพยายามทำให้สำเร็จ จงปกป้องความฝัน จงรักษาความฝัน ทบทวนความฝัน แล้วลงมือทำมันจนกว่าจะพบกับความสำเร็จ คนที่บอกว่า คุณทำได้ กับ คุณทำไม่ได้หรอก เขาพูดถูกทั้งสองคน แต่คนที่จะตัดสินว่าทำได้หรือทำไม่ได้ ก็คือตัวของคุณเอง
จงแสดงความสามารถของคุณ ออกมาให้โลกรู้ว่า คุณเก่งขนาดไหน คุณแน่ขนาดไหน จงเชื่อมั่นในตนเอง จงกล้าที่จะล้มเหลว เพราะเป็นสิ่งที่คุณจะต้องได้รับมัน คุณไม่มีวันที่จะชนะทุกครั้ง ในบางครั้งคุณจะต้องพบกับความล้มเหลว ความพ่ายแพ้ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ประสบความสำเร็จจะต้องได้รับ
คนจำนวนมากมัวแต่ชื่นชมคนอื่นๆที่ประสบความสำเร็จ พวกเขารู้จักคนอื่นๆ มากกว่าตัวของเขาเอง ทำไมคุณไม่สละเวลา เรียนรู้ตัวเอง จงปล่อยตัวตนเก่งๆ ของคุณออกมา เพราะคุณขังมันมานานแล้วครับ
จงกระตุ้นตัวตนที่เก่งๆของคุณออกมา จงบีบมันออกมา จงสร้างสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ศักยภาพที่อยู่ในตัวของคุณออกมาใช้ คนทุกคน สัตว์ทุกตัวมีศักยภาพในตัวเอง แต่ได้นำเอาออกมาใช้น้อยมาก
มีหมา 2 ตัว ได้คุยกัน หมาตัว 1 บอกว่า ฉันวิ่งไวมาก หมาตัวที่ 2 จึงท้าให้ไปวิ่งไล่จับกระต่าย ผลปรากฏว่า หมาตัวที่ 1 จับกระต่ายไม่ได้ แล้ววิ่งเหนื่อยกลับมา หมาตัวที่ 2 ถามว่า ไหนละกระต่าย คำถามคือ ทำไม จับไม่ได้ คำตอบก็เพราะว่า วัตถุประสงค์ต่างกัน การนำศักยภาพออกมาใช้จึงต่างกัน หมาตัวที่ 1 วิ่งไล่จับกระต่ายเพราะต้องการอวดเพื่อน แต่กระต่ายวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด เพราะถ้าถูกจับได้ มันต้องตาย
เช่นเดียวกันกับ หนูกับแมว ในบางครั้งแมวตัวใหญ่ๆ วิ่งไล่ตามหนูไม่ทัน แมวตัวใหญ่กว่าหนูหลายเท่า แต่ทำไม แมวบางตัวถึงไล่หนูไม่ทัน ก็เพราะการนำเอาศักยภาพมาใช้แตกต่างกันนั้นเอง ยิ่งแมวในปัจจุบัน เจ้าของเลี้ยงดีมาก ให้ข้าว ให้น้ำ ให้อาหารอย่างดี พอให้หนูวิ่งผ่าน ก็ได้แต่นอนดูหนูด้วยซ้ำไป
ทำไมเราถึงล้มเหลว คำตอบก็คือ เราไม่ได้ล้มเหลวหรอก เพียงแต่เรายอมที่จะล้มเลิก เรายอมแพ้ก่อนที่จะถึงฝั่งฝัน เรายอมที่จะหยุดกลางทางก่อน ที่จะถึงเป้าหมายหรือถึงความฝันของเรา

...
  
การอ่านกับการพูด
การอ่านกับการพูด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
มีคนเคยกล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า “ แบตเตอรี่ที่อัดแล้วย่อมมีพลังสูง สมองคนเราก็ควรจะเสริมสร้างพลังขึ้นด้วยการอ่าน อัดและอัดความรอบรู้เหล่านั้นเข้าไปให้มาก”
กระผมเห็นด้วยกับคำพูดดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่ต้องการพูดเก่ง พูดเป็น พูดแล้วได้ประโยชน์ พูดแล้วได้เงิน บุคคลนั้นจะต้องมีองค์ความรู้อยู่ในตัว ซึ่งองค์ความรู้ที่สำคัญมักได้มาจากการอ่านหนังสือ หลายคนเมื่อได้ฟังแล้ว อาจจะโต้เถียงว่า โลกยุคนี้ไม่ต้องอ่านหนังสือก็ได้ เราสามารถฟังหรือดูผ่านสื่อต่างๆได้
แต่สำหรับกระผมแล้ว กระผมยังเชื่อมั่นว่า การอ่าน เป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้ที่ต้องการความรู้ได้รับความคิด ได้รับข้อมูล ได้รับปัญญามากกว่า สื่ออื่นๆ เพราะเมื่อเราได้อ่านหนังสือแล้ว เกิดคำถามหรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เป็นปัญหาในเรื่องที่เราอ่าน เราสามารถหยุดคิดได้ หรืออาจเรียกว่า การใคร่ครวญคิด อีกทั้งทำให้เรามีนิสัยจดจ่อ อดทน มีสมาธิ ซึ่งแตกต่างกับการฟัง หลายคนฟังแล้วไม่ได้คิดตามหรือคิดไม่ทัน ก็อาจคล้อยตามได้ การอ่านจึงทำให้เราเกิดความคิด เกิดปัญญาได้มากกว่าวิธีอื่นๆ
ฉะนั้น หากว่าเราต้องการพูดเก่ง พูดดี หรือใช้ประโยชน์จากการพูด เราก็ควรอ่านหนังสือให้มากที่สุด อ่านหนังสือทุกประเภท เพราะหนังสือแต่ละเล่มมีประโยชน์ ทำให้เราเกิดความคิด เกิดจินตนาการ อ่านอย่างเดียวอาจจะลืม ทางที่ดีเราก็ควรหา สมุด กระดาษ ปากกา จด จดในสิ่งที่เราต้องการที่จะนำเอาไปใช้ในอนาคต เช่น จดคำคม คำกลอน คำพูดที่น่าสนใจของบุคคลต่างๆ ฯลฯ
ยิ่งกว่านั้น บุคคลที่ใช้ภาษาได้ดี บุคคลผู้นั้นจะต้องยิ่งอ่านหนังสือเป็นจำนวนมากกว่าคนอื่นๆ บางคนถึงกับอ่านและท่องพจนานุกรมเลยทีเดียว เช่น มาร์คทเวน นักเขียนชื่อดังระดับโลกในอดีต , ลินคอล์น อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐ ก็ท่องพจนานุกรม เป็นต้น การท่องและการอ่านพจนานุกรมอยู่เป็นประจำ จึงทำให้บุคคลทั้งสองท่าน เลือกใช้ถ้อยคำได้ดี เลือกใช้ถ้อยคำได้เป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปใช้ในงานเขียนกับใช้ในงานพูดของเขา
การอ่านหนังสือมากๆ จะทำให้เราเลือกใช้คำได้เป็นอย่างดีและการอ่านหนังสือมากๆจะทำให้เราเป็นคนพูดได้อย่างถูกต้อง เช่น ตัว “ร” ตัว “ล” หลายคนใช้ผิด พูดผิด เขียนผิด โรงเรียน บางคนเขียนหรือพูดเป็น โลงเลียน ถนนเจริญกรุง หลายคนพูดหรือเขียนเป็น ถนนเจลิญกุง เป็นต้น
การอ่านหนังสือมากๆจะทำให้เราได้ วรรคทอง เพื่อนำเอาไปใช้ ตัวอย่าง การอ่านหนังสือประวัติบุคคลสำคัญของโลก เคเนดี้ JFK อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เขาเคยกล่าวในสุนทรพจน์แล้วมีคนนำมาเขียนว่า “ โปรดอย่าถามว่าประเทศชาติของท่านจะทำอะไรให้แก่ท่านได้บ้าง แต่จงถามว่าท่านจะทำให้อะไรให้แก่ประเทศชาติของท่านบ้าง” เมื่อเราได้อ่านแล้วเกิดความประทับใจ เราอาจจดคำพูดเหล่านั้นเพื่อนำไปใช้หรือประยุกต์ใช้ในอนาคต เช่น หากว่าวันใดที่เราเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กร เรามีการประชุมองค์กรหรือ ภายในองค์กร ภายในหน่วยงานของเราเริ่มมีปัญหาเรื่องคน เราอาจจะนำไปพูดหรือประยุกต์ใช้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม “ โปรดอย่าถามว่าองค์กรของท่านจะทำอะไรให้แก่ท่านได้บ้าง แต่จงถามว่าท่านจะทำอะไรให้แก่องค์กรของท่านบ้าง” เป็นต้น
ฉะนั้น หนังสือทุกประเภทจึงเปรียบเสมือนแหล่งที่บรรจุองค์ความรู้มหาศาล มีมากมายกว้างขวางดุจน้ำในสมุทร แต่คงต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าจะมีความมานะ บากบั่น พยายาม ในการอ่านสักเพียงไร
หากท่านอ่านมาก ท่านจะเป็นคนที่มีความคิดเห็นใหม่ๆ ท่านจะมีคำพูดที่คมคาย ท่านจะมีปัญญามากกว่าบุคคลอื่น แต่เป็นที่น่าเสียดายกับคนไทยเป็นจำนวนมาก ไม่ชอบอ่านหนังสือ และเด็กรุ่นใหม่ๆ เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ก็ไม่ยอมอ่าน ไม่ยอมศึกษาเพิ่มเติมอีก คิดว่ามีความรู้มากพอแล้ว แต่แท้จริงแล้ว ความรู้มีไม่สิ้นสุด
ดังคำพูดของพระพุทธเจ้าที่เคยกล่าวไว้ว่า “ ที่เรารู้ที่เราสอนเป็นเพียงแค่ใบไม้แค่กำมือเดียว เมื่อเทียบกับ ต้นไม้ที่มีอยู่ทั้งต้น” ซึ่งต้นไม้นั้น ยังมีกิ่งก้าน สาขา ใบไม้ อีกเป็นจำนวนมาก

...
  
มุ่งมั่นตามฝันสู่อนาคตที่สดใส
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทอล์คโชว์ให้นักเรียน โรงเรียนเชียงม่วนวิทยาคม ในหัวข้อ " มุ่งมั่นตามฝันสู่อนาคตที่สดใส ...
  
คุณมีความสามารถมากกว่าที่คุณคิด
คุณมีขีดความสามารถมากกว่าที่คุณคิด
โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
มนุษย์เรามีความสามารถอย่างมากมาย มหาศาล พลังที่ซ่อนอยู่ใต้จิตสำนึก พลังที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเรามีมากมายกว่าที่เราคิดไว้ แต่พวกเราได้นำเอาความสามารถเหล่านั้นออกมาใช้ได้น้อยมาก ซึ่งแตกต่างกับบุคคลที่ประสบความสำเร็จ นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ บุคคลที่มีชื่อเสียง พวกเขาได้นำเอาศักยภาพเหล่านั้นออกมาใช้ได้มากกว่าพวกเรา
ช้างน้อย ตอนเล็กๆ ถูกล่ามโซ่ตรวนไว้ที่ขา เมื่อมันพยายามดึงออก โซ่ตรวนนั้นก็ไม่หลุด แต่พอช้างน้อยเติบโตขึ้นเป็นช้างพลาย โซ่ตรวนที่ล่ามไว้ก็ยังเป็นโซ่อันเดิม เมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่มันเล็ก โซ่นั้นอาจใหญ่ แต่เมื่อเติบโตเป็นช้างพลาย โซ่ตรวนนั้นเล็กมากๆ แต่มันไม่กล้าที่แม้แต่จะคิดดึงโซ่ตรวนนั้น เพียงแค่มันดึงนิดเดียวก็หลุดแล้ว มีอยู่แค่ครั้งเดียวที่มันดึงหลุดก็คือ ตอนที่มันตกมัน เราเป็นคนเราจะรอให้ตกมันก่อนไหม
จงพยายามสร้างสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ตนเองนำพลังแฝงออกมาใช้ให้มากที่สุด พวกเราคงเคยเห็น คงเคยได้ยินหรือเคยอ่านข่าวเจอมาบ้าง คนบางคนสามารถยกโอ่งน้ำ บางคนสามารถยกตู้เย็น ที่หนักมาก ออกจากบ้านที่ถูกไฟไหม้ เพราะตกใจ เพราะเสียดายของมีค่า ซึ่งกว่าที่จะหามาได้ แต่ละชิ้น ต้องทำงานแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ แรงกาย แรงใจ แต่พอไฟดับ 2-3 คนช่วยกันยกกลับ เอาเข้าที่เดิม ขนาดช่วยกันยกก็ยังไม่ไหว
เวลาพวกเราวิ่งออกกำลังกาย เราวิ่ง 10 รอบสนามฟุตบอล เราเหนื่อยวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่ถ้าเกิดสถานการณ์ มีหมาตัวใหญ่ๆ ดุมาก เกิดหลุดออกจากกรง แล้ววิ่งตรงเข้ามาหาเรา เราจะวิ่งหนีหรือไม่ หลายคนไม่รู้ว่าเอาแรงมาจากไหน วิ่งแบบไม่คิดชีวิต
เคยมีข่าวที่ต่างประเทศ ข่าวหนึ่งน่าสนใจมาก ผู้ชายอายุเกือบ 80 ปี ได้ซ่อมรถแล้วยกแม่แรงขึ้น แต่เกิดอุบัติเหตุ ล้อรถดันไปทับขาหลานชายของเขา ด้วยความตกใจ ระหว่างชีวิตของหลานชายกับน้ำหนักรถ ผู้ชายอายุเกือบ 80 ปี สามารถยกรถยนต์เพื่อให้แขนของหลานชายที่อยู่ใต้ล้อ ออกมาได้
เวลาที่เราอยู่บนตึกสูง 2 ชั้น เรามองลงไปให้พวกเราโดน พวกเราจะกล้ากระโดดหรือไม่ กระผมเชื่อแน่ว่า หลายคนไม่กล้าที่จะกระโดด แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ แล้วสถานการณ์ก็บีบบังคับให้เราต้องกระโดดลงไป ผมเชื่อแน่ว่า คนส่วนใหญ่กล้าที่จะกระโดด
หลายคนพยายามอดอาหารโดยไม่ทานอาหารทั้งวัน แต่ก็ไม่สามารถอดอาหารได้ แต่ถ้าวันใดคุณต้องติดเกาะ ซึ่งเป็นเกาะร้าง ไม่มีอาหารที่จะกิน ถ้าอยู่ในสถานการณ์นั้น กระผมเชื่อแน่ว่า เราสามารถอดอาหารได้เป็นเวลาหลายๆวันติดต่อกันเลยทีเดียว
ฉะนั้น ความสามารถของคนเรามีขีดความสามารถที่ไร้ขีดจำกัด คุณมีความสามารถมากกว่าที่คุณคิด แต่เราไม่ใช้มัน จงสร้างสถานการณ์ขึ้น เพื่อให้พลังแฝงที่มีอยู่ภายในตัวเรา ได้ออกมาใช้งาน จงปลดปล่อยตัวตนที่เก่งๆ ออกมา คุณขังมันมานานแล้ว จงขุดมันออกมา จงใช้มันเสีย ก่อนที่คุณจะจากโลกนี้ไป
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  [97]  [98]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.