หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
วิทยากรเผยแพร่ความรู้การเมืองภาคพลเมืองสู่เยาวชน
วิทยากรเผยแพร่ความรู้การเมืองภาคพลเมืองสู่เยาวชน ณ สถาบันวิชาการทีโอที ถนนงามวงศ์วาน จังหวัดนนทบุรี ...
  
การตลาดของมหาเศรษฐีโลก
การตลาดของมหาเศรษฐีโลก
โดย....ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
บุคคลที่ร่ำรวยมีเงินทอง มักเป็นผู้ที่ประกอบธุรกิจจนประสบความสำเร็จ โดยหลักในการทำการธุรกิจของบุคคลเหล่านี้ มักที่จะมีเรื่องของการตลาดเข้ามาอย่างเกี่ยวข้องและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการทำการตลาดของเหล่ามหาเศรษฐีเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจ เพราะถ้าหากเราสามารถนำเอาแนวความคิดเหล่านี้ไปใช้ เราก็สามารถประสบความสำเร็จและร่ำรวยได้เช่นกัน
สตีฟ จอบส์ ให้ความสำคัญกับการทำการตลาดแบบคิดต่างหรือทำสินค้าให้แตกต่างจากคนอื่นๆ เขาพัฒนาซอฟต์แวร์และสินค้าของบริษัทแอปเปิลให้แตกต่างจากบริษัททั่วๆไป ส่งผลให้ลูกค้าในตลาดเลือกที่จะใช้สินค้าของบริษัทแอปเปิลมากขึ้น มากขึ้น จึงทำให้บริษัทแอปเปิลมีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างมากมาย จนนำมาซึ่งรายได้เงินทองเข้ามายังบริษัทอย่างมากมายมหาศาล
คาร์ลอส สลิม มหาเศรษฐีชาวเม็กซิโก บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 3 ปีซ้อน ซึ่งจัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บส์ เขามีบริษัทมากกว่า 200 แห่งในแม็กซิโก เขามีศิลปะในการขยายการตลาดของธุรกิจของเขาโดยการ มองเห็นโอกาสในภาวะวิกฤต ช่วงที่มีวิกฤตเราจะเห็นได้ว่าบริษัทต่างๆ ต่างใกล้จะล้มละลายอีกทั้งยังขายในราคาที่ถูกๆ ไม่ว่าห้างสรรพสินค้า บริษัททางด้านการเงิน บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา เขามักจะเข้าไปซื้อธุรกิจใกล้ล้มละลายแล้วนำเอามาบริหารใหม่จนประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นทางลัดในการทำธุรกิจและการตลาดของเขา จนในปัจจุบันชาวเม็กซิกัน ทุกๆคนจะต้องใช้สินค้าและบริการของเขาอย่างน้อย 1 อย่าง เช่น งานบริการของธนาคาร โทรศัพท์มือถือ กาแฟ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
โดนัลด์ เจ ทรัมพ์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกา นักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัยพ์ชั้นนำ เขามีหลักการในการทำการตลาดโดยการ นำเอาตัวของเขาเองเป็นตราสินค้าแล้วก็โฆษณาประชาสัมพันธ์ตัวของเขาเองให้คนได้รับรู้ ซึ่งการทำเช่นนี้ส่งผลให้การทำธุรกิจของเขาประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว เขาเคยกล่าวไว้ตามสื่อต่างๆว่า “ หากว่าคุณเป็นตราสินค้า สื่อก็จะโจมตีคุณตลอดเวลา มันเป็นเรื่องธรรมดา ผมเองก็เรียนรู้จะอยู่ร่วมกันกับมัน นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่มันก็เกี่ยวข้องกับเรื่องของการทำธุรกิจด้วย”
ริชาร์ด แบรนสัน นักธุรกิจพันล้าน มหาเศรษฐีผู้ปลุกปั้น “ อาณาจักรเวอร์จิ้น” เขาเป็นนักธุรกิจที่นอกคอก สมัยเด็กๆเขาปฏิเสธระบบการศึกษาโดยไม่ตั้งใจเรียน พออายุ 16 ปี เขาก็ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาทำธุรกิจแรกกับหนังสือ Student ปัจจุบันเขามีธุรกิจมากมายหลายอย่าง เช่น เครื่องสำอาง ชุดเจ้าสาว ถุงยาง น้ำอัดลม โรงแรม รถไฟ มือถือ สายการบิน ธุรกิจการเงิน เป็นต้น ทำไมคนถึงสนใจเขา ก็เนื่องจากเขามีความคิดแบบขบถหรือนอกคอก จึงทำให้เป็นที่สนใจของประชาชนและลูกค้าของเขา ดังตัวอย่างดังนี้ต่อไปนี้
เขามีความคิดที่จะทำทัวร์อวกาศในปี ค.ศ.2009 , เขามีแนวคิดของการเป็นนักประชาสัมพันธ์ต้นทุนต่ำ เขาเข้าร่วมแสดงหนังเจมส์บอนด์ “ Casino Royale” ซึ่งก็ให้ความสนใจและลงข่าวให้เขาโดยที่เขาไม่ต้องจ่ายเงินให้ทำข่าวเลย ซึ่งส่งผลดีกับการทำธุรกิจของเขา
ธนินท์ เจียรวนนท์ มหาเศรษฐีชาวไทย เขามีหลักการทำการตลาดคือ เขาจะเน้นขายสินค้าหรือบริการให้กับคนหมู่มากหรือพูดง่ายๆว่า “ ธุรกิจเพื่อมวลชนหรือสินค้าเพื่อมวลชน” ซึ่งธุรกิจของเขามักจะมีลูกค้าอยู่ทั่วประเทศและทั่วโลก สินค้าที่เขาทำธุรกิจมักเป็นสินค้าประเภทของ “ อาหารการกิน” รวมไปถึง “ เครื่องดื่ม” ซึ่งทุกคนทั่วโลกจะต้องกินต้องใช้ในทุกๆวัน
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลก เจ้าของ Facebook เขารู้จักความต้องการของชาว IT อีกทั้งทำในสิ่งที่แตกต่างจากเว็ปเครือข่ายทั่วไป ซึ่งในขณะนั้น เว็ปเครือข่ายโดยทั่วไปไม่นิยมการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวและตัวตนของตนเอง แต่ Facebook ทำให้สิ่งที่ตรงกันข้าม Facebook มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวและตัวตนของตัวเอง อีกทั้ง Facebook ยังทำได้มากกว่าการพูดคุยกัน Facebook จึงเป็นที่ต้องการของตลาดโลก
โดยสรุปการทำการตลาดของบรรดาเศรษฐีโลก เขามักจะทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมวลชนหรือคนส่วนใหญ่ในโลก เขามักจะสร้างสินค้าหรือบริการให้เกิดความแตกต่างเพื่อเป็นที่สนใจของลูกค้า เขามักจะมีการประชาสัมพันธ์ตนเองและสินค้าของเขาอย่างต่อเนื่อง และเขามักใช้ช่วงที่มีวิกฤตโดยมองหาโอกาสในการลงทุน

...
  
การพูดของอาจารย์จตุพล ชมภูนิช
เทคนิคการพูดจากอาจารย์จตุพล ชมภูนิช


จากหนังสือเรื่อง บุคลิกภาพคนรุ่นใหม่





นักพูดที่มีชื่อเสียงอีกท่านหนึ่งที่ใครหลายๆคนชื่นชอบ และชื่อของนักพูดท่านนี้คงครองใจของใครหลายคนเหมือนกัน หนังสือที่ดิฉันอ่านเป็นของนักพูดท่านนี้เช่นกัน ท่านอาจารย์จตุพล ชมภูนิช หนังสือที่ท่านเขียนเล่มนี้เป็นการพูดถึงบุคลิกภาพที่ดีของคนรุ่นใหม่ ซึ่งดิฉันติดใจและสะดุดตาตั้งแต่เห็นชื่อเรื่อง " บุคลิกภาพคนรุ่นใหม่ " ตอนแรกก็ไม่ทราบว่าเป็นของใคร แต่พอเหลือบดูภาพบนหน้าปกก็ถึงบางอ้อทันทีและไม่คิดลังเลที่จะหยิบไปให้บรรณารักษ์บันทึกลงคอมพิวเตอร์ว่าดิฉันตัดสินใจเลือกยืมหนังสือเล่มนี้


เราจะมาตะลุยดูเลยว่าเวลาที่อาจารย์เขียนหนังสือนั้นจะเหมือนกับตอนที่พูดมากน้อยแค่ไหน จะใช้เทคนิคเดียวกันหรือไม่ อาจารย์จะใช้เทคนิคการพูดอย่างไรที่ทำให้สามารถครองใจคนทุกวัยได้ หนังสือเรื่องนี้ดูจากชื่อเรื่องก็รู้ได้เลยว่าอาจารย์จตุพลต้องพูดถึงเรื่องบุคลิกภาพอย่างแน่นอน ด้วยความที่ดิฉันเองก็อยากเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีบุคลิกภาพที่ดีทั้งทางด้านความคิดและบุคลิกภายนอก จะได้ช่วยส่งเสริมให้ตัวเราเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้าง


ก่อนอื่นเราจะมาดูก่อนว่าเนื้อหาสำคัญที่อาจารย์จตุพลได้กล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี้มีอะไรบ้าง ในโลกธุกิจการสร้างภาพลักษณ์หรือบุคลิกภาพให้เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือนับเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ยิ่งต้องใส่ใจและให้ความสำคัญมากขึ้น การมีบุคลิกภาพที่ดีถือเป็นบันไดก้าวแรกที่เราจะไต่ไปสู่ความสำเร็จในอนาคต ด้วยเหตุนี้บุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือจึงเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นที่สำคัญของคนรุ่นใหม่ ซึ่งคงไม่มีใครปฏิเสธในความจริงข้อนี้ ทุกคนยิอมปรารถนาที่จะเป็นคนที่มีบุคลิกภาพที่ดี มีบุคลิกภาพเป็นที่ยอมรับของสังคมและคนรอบข้าง


หนังสือบุคลิกภาพของคนรุ่นใหม่ ของอาจารย์จตุพลนี้ได้แดงให้เห็นถึงทุกองค์ประกอบ ทุกมุมมองและทุกขั้นตอนปฏิบัติของการนำไปสู่บุคลิกภาพตามแบบมาตรฐานสากลของคนรุ่นใหม่ เนื้อหาที่อาจารย์จตุพลเสนอได้แบ่งออกเป็นตอนๆ เป็นเรื่องๆไป พูดจบเรื่องนี้ให้ชัดเจนและเข้าใจแล้วก็พูดหัวข้อต่อไปอีกโดยมีลักษณะเป็นเอกภาพตรงที่จะมีวิธีการจัดการกับตัวเองอย่างไรบ้างให้ได้เป็นคนมีบุคลิกภาพที่ดี


ที่อาจารย์จตุพลพูดไว้ในหนังสือเล่มนี้ มีหลายตอนที่ดิฉันชอบและได้บันทึกไว้ในสมุดเพื่อไว้อ่านเป็นอาหารสมองให้กับตัวเอง อาจจะเก็บไว้สอนลูกสอนหลาน แนะนำเพื่อนที่เขายังไม่รู้ต่อไป คิดว่าต้องเป็นประโยชน์แน่ บันทึกไว้ไม่เสียหายอะไร


หนึ่งในตอนที่ดิฉันบันทึกไว้ก็คือตอน It's your style : ยังไงก็เป็นคุณ อาจารย์จตุพลกล่าวว่า เราอาจจะประทับใจใครก็ได้ เราอาจจะเรียนรู้จากใครก็ได้ เราอยากเก่งเหมือนใครก็ได้ เราจะเอาใครเป็นแบบอย่างเราก็ได้ แต่สุดท้าย เราต้องเป็นตัวของเราเอง บุคลิกภาพที่ดีที่สุดนั้นได้แก่บุคลิกภาพที่แสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด คนที่ประสบความสำเร็จ คนที่เป็นผู้นำ คนที่มีความเชื่อมั่น คนเหล่านี้มักมีบุคลิกภาพเป็นของตัวเอง ซึ่งการมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือปัจจัยอย่างหนึ่งที่จะทำให้เราก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จได้ไม่ยาก การสร้างสไตล์เฉพาะตัวนั้นสร้างได้หลายทาง เริ่มจากการแต่งกาย การไว้ทรงผม อาหารการกิน รสนิยมการใช้ชีวิตในการพักผ่อน อุปกรณ์ของใช้ การทำงาน การมีรูปแบบการใช้ชีวิตและบุคลิกภาพเฉพาะคนเป็นสิ่งที่ต้องค้นหา เราจึงจะทราบว่าเราเป็นคนแบบไหน มีเอกลักษณ์อะไรที่เหมาะสมกับตัวเอง เราต้องพยายามค้นหาและพิจารณาให้ได้แล้วเราจะเป็นคนหนึ่งที่ที่ใครเห็นก็ทึ่ง ชวนสะดุดตาพาสะดุดใจ เพราะเราไม่ใช่มนุษย์โหลที่หาได้ทั่วไปตามศูนย์การค้า เราต้องไม่ตามกระแส (แฟชั่น) เสียจนไร้ความภูมิใจและในขณะเดียวกันเราก็ไม่ทวนกระแสเสียจนใครไม่กล้าคบหาสมาคม


ในเรื่องการแต่งกายต้องระลึกไว้เสมอด้วยว่า เราแต่งให้ผู้อื่นดูด้วยไม่ใช่แต่งแล้วดูคนเดียว การแต่งกายที่ดี ต้องให้เหมาะสมกับกาลเทศะ มิใช่พยายามนุ่งกระโปรงยาวแต่ในชีวิตประจำวันการเดินทางต้องขึ้นรถลงเรือ ซ้อนมอเตอร์ไซค์หลายต่อ จะขึ้นลงทีต้องคอยถลกกระโปรง ดีไม่ดีอาจเกิดอุบัติเหตุได้ แบบนี้ต้องปรับตัวเองด้วย


การเสริมเติมแต่ง ทำให้คนเราดูดีขึ้นก็จริงแต่ต้องขึ้นอยู่กับเวลาและสถานที่ มิเช่นนั้น การแต่งที่จะทำให้เกิดความสวยความงามเห็นแล้วคงจะคิดตามนั้นไม่ออก อาจารย์จตุพลได้แนะนำหลักการง่ายๆ ที่ใช้ในการแต่งตัวว่า ไม่ควรแต่งกายหรือเสริมความงามในที่สาธารณะชน เพราะการให้คนอื่นรู้เห็นในวิธีทำให้ตัวเองงดงามนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่าดูน่าชม


อาจารย์จตุพลได้แนะนำทุกเรื่องราวตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งเรื่องของหญิงและชาย มีตั้งแต่รูปร่างแบบไหนนิสัยอย่างนั้น การแต่งตัว การใส่สูท ทรงผม เครื่องสำอาง รองเท้า นาฬิกา องค์ประกอบทั้งหลายเหล่านี้เป็นส่วนที่ช่วยส่งเสริมหรือถดถอยบุคลิกภาพของเราได้ทั้งสิ้น เราจึงไม่ควรละเลย จะใส่อะไรจะทำอะไรก็ให้คำนึงถึงกาลเทศะ ความเหมาะสม ดูให้เหมาะสมกับรูปร่าง เหมาะสมกับโอกาสและที่สำคัญให้เหมาะกับฐานะ


อาจารย์จตุพลยังบอกอีกว่า บุคลิกของทั้งบุรุษและสตรีวัยทำงาน เสื้อผ้าที่ใส่แล้วต้องไม่ล้ำสมัย เก๋ไก๋ สไตล์ล้ำอย่างเดียวแต่ควรจะให้ดูดี มีศรัทธา น่าเชื่อถือ สินค้าที่ดีก็ต้องมีหีบห่อที่ดีฉันใด คนที่ดีก็ต้องมี PACKAGE ที่ดีไปด้วยฉันนั้น สินค้าดีเพียงใดแต่ไม่ใส่ใจในหีบห่อ ก็ไม่มีใครสนใจซื้อ คนทำงานที่ดี ก็ต้องมีที่หุ้มห่อให้ดีจะได้มีคนซื้อ เราควรใส่ใจกับเรื่องการแต่งกายสักนิด แล้วเราจะสามารถพิชิตความสำเร็จในโลกของมนุษยสัมพันธ์และการทำงานได้อย่างไม่ยากเย็น


ดิฉันเห็นด้วยกับที่อาจารย์จตุพลพูด และเป็นที่น่าสังเกตว่า สิ่งที่อาจารย์ถ่ายทอดออกมานั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของอาจารย์และอาจารย์ได้บันทึกลงโปรแกรมประสบการณ์ไว้อย่างดี เมื่ออาจารย์พบเห็นสิ่งใดมาก็จะมีมุมมองแนวคิดที่บางทีใครก็มองข้าม พอนำมาถ่ายทอดให้คนอื่นฟัง ก็เป็นที่น่าสนใจ และจะเห็นด้วยว่าทำไมที่ผ่านมาเราถึงได้ไม่มองอย่างนั้นบ้าง และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นนักพูดที่ดี ต้องรู้จักสังเกตและมีมุมมองที่ไม่เหมือนใคร


เมื่อดิฉันอ่านหนังสือเล่มนี้จบลงนอกจากจะได้ความรู้เคล็ดลับของการมีบุคลิกภาพที่ดีแล้ว ก็ขอมองถึงวิธีการและเทคนิคการพูดของอาจารย์จตุพลดูบ้าง ว่าอาจารย์ท่านมีเทคนิคการพูดอย่างไรให้ติดอกติดใจผู้ฟังได้ขนาดนี้โดยดูจากตัวอย่างของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเท่าที่ดูก็ขอสรุปไว้ดังนี้


1. การพูดของอาจารย์มีลักษณะเป็นเอกภาพ เวลาอาจารย์จะพูดหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ท่านก็จะตั้งหัวข้อไว้ แล้วพาผู้ฟังไปสู่เป้าหมายของการพูดโดยการยกตัวอย่างไปเรื่อยๆ ตัวอย่างที่ยกมานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นองค์ประกอบของเรื่องที่พูด ซึ่งจะทำให้ผู้ฟังสามารถเข้าใจและมองเห็นภาพที่อาจารย์สื่อชัดยิ่งขึ้น


2. เรื่องที่พูดใกล้ตัว สังเกตดูแล้วดิฉันพบว่าแต่ละเรื่องที่อาจารย์จตุพลพูดล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องใกล้ตัว บางทีเป็นเรื่องเส้นผมบังภูเขา เป็นเรื่องที่ใครๆละเลย มองไม่เห็น แต่อาจารย์มองเห็น แสดงให้เห็นได้ชัดเลยว่าการที่จะเป็นนักพูดที่ดีนั้น ต้องเป็นคนช่างสังเกต มีมุมมองที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร หรือถึงแม้ซ้ำก็มีความคิดสร้างสรรค์ทำให้เรื่องที่ซ้ำนั้นดูน่าสนใจและแปลกใหม่ขึ้นมา คนที่มีอะไรแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ย่อมเป็นที่น่าสนใจเสมอ


3. คนที่จะเป็นนักพูดที่ดีต้องมีประสบการณ์มาก ประสบการณ์ในที่นี้คือมีเรื่องราวผ่านเข้ามาในชีวิตมากๆ ยิ่งมีประสบการณ์มาก ยิ่งทำให้คนพูดมีข้อมูลมากตามไปด้วย อาจจะนำข้อมูลอันเก่านั้นมาพลิกแพลงให้เข้ากับยุคสมัยให้ทันปัจจุบันมากขึ้น เพราะคนฟังก็ย่อมมีวิถีชีวิตเปลี่ยนไปตามวิถีสังคม อย่างอาจารย์จตุพลท่านก็เป็นผู้มีประสบการณ์มาก อายุปูนนี้แล้วยังไม่แต่งงาน แล้วทำไมท่านถึงรู้และมีประสบการณ์เกี่ยวกับชีวิตคู่ หรือทำไมท่านถึงเข้าใจผู้หญิง เข้าใจทุกเพศทุกวัยได้ดีเสียเหลือเกิน ตรงนี้ให้สังเกตนิดนึงค่ะว่า ที่ท่านมีประสบการณ์เหล่านี้อาจจะไม่ใช่เพราะท่านได้รับประสบการณ์มาโดยตรง ท่านอาจจะได้รับประสบการณ์เหล่านี้จากคนรอบข้าง จากหนังสือ ซึ่งถ้าอยากเป็นนักพูดที่ดี เราก็ควรทำให้ได้อย่างนี้ด้วย


4. นักพูดที่ดีต้องทันยุค ทันสมัย ทันใจ รู้ใจคนฟัง รู้ว่าในขณะนั้นผู้ฟังคิดอะไร อย่างไร มีวิถีชีวิตเป็นอย่างไร ให้ทันตามทุกกลุ่มอายุคน อย่างอาจารย์จตุพล ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมท่านถึงเป็นขวัญใจของคนทุกวัยได้ ท่านเหมือนรู้ใจคนทุกกลุ่ม รู้ว่าคนกลุ่มไหนกำลังคิดอะไรยังไง มีกระแสอะไรที่กระทบหรือส่งผลต่อคนเหล่านั้น ท่านสังเกต และมอง ท่านทำเหมือนกับท่านเป็นคนเหล่านั้นเสียเอง ตรงนี้แหละค่ะที่ดิฉันคิดว่าผู้ฟังชอบ


5. คนที่จะเป็นนักพูดที่ดี ต้องไม่ลืมอารมณ์ขัน อาจารย์จตุพลนี่พูดเมื่อไหร่ พูดเรื่องอะไรก็ขำได้ แม้แต่เรื่องเครียดๆก็ทำให้ผู้ฟังไม่เครียด ทำให้คนหัวเราะได้ นี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเป็นนักพูดที่ดี เพราะทุกครั้งที่อาจารย์พูดเหมือนกับอาจารย์เป็นเทวดาที่สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ฟังได้ตลอด คนฟังก็มีความสุข หนังสือที่อาจารย์จตุพลเขียนนี้แม้จะเป็นเรื่องหลักการแต่อ่านแล้วเราไม่เครียดเลย มีทั้งมุขตลก ล้อเลียน สร้างอารมณ์ขันได้ตลอด


6. นักพูดที่ดีต้องเป็นนักยกตัวอย่างที่ดี เมื่อมีประสบการณ์เยอะ มีข้อมูลเยอะ ก็ทำให้สามารถยกตัวอย่างได้ดีทันใจ หยิบยกโยงใยเรื่องโน้นมาเป็นตัวอย่างของเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม คนฟังจะได้ไม่ถูกจำกัดกรอบเพียงเรื่องเดียว มาฟังเรื่องหนึ่งก็อาจจะได้ความรู้จากอีกเรื่องหนึ่งแถมไปด้วย เหมือนเป็นการแถมของขวัญให้กับผู้ฟัง


7. จะเป็นนักพูดที่ดี ให้เป็นที่น่าเชื่อถือ ต้องมีบุคลิกที่ดีด้วย เหมือนชื่อเรื่องของหนังสือเล่มนี้เลย ตรงนี้เราก็เห็นได้อีกแล้วว่า อาจารย์จตุพลเนี่ยเป็นคนที่มีบุคลิกดี เราไม่ขอพูดถึงเรื่องหน้าตา เพราะเรื่องบุคลิกภาพที่ดีเป็นสิ่งที่สร้างได้ อาจารย์จะดูโก้และเหมือนเป็นเทพบุตรเสมอเวลาพูด ดูตั้งแต่แต่งตัวดี เนี๊ยบแบบน่าเชื่อถือ สะอาด ยิ่งพูดน่าสนใจคนก็จะยิ่งไม่ละสายตาจากคนพูดเลย


8. อาจารย์จตุพลมักใช้วิธีการเปรียบเทียบ เห็นนักพูดนักเขียนหลายท่านชอบใช้อยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าการรู้จักเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่งหนึ่งนั้นนอกจากจะเป็นการให้ความรู้แก่ผู้ฟังแล้วยังทำให้การพูดเป็นไปอย่างมีลีลา แสดงให้เห็นว่าผู้พูดมีความสามารถ ผู้ฟังก็จะได้มีจินตนาการร่วมไปด้วย





เทคนิคและวิธีการพูดที่ดิฉันได้จากท่านอาจารย์จตุพลนี้ เป็นประโยชน์อย่างมากต่อพวกเรา เพราะในเมื่อเราชอบและชื่นชมในตัวท่านอาจารย์ อาจารย์เป็นนักพูดที่มีชื่อเสียง ใครอยากเป็นนักพูดที่ดีเหมือนอาจารย์ก็สามารถเรียนรู้เทคนิควิธีการพูดเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง จำได้ไหมในหนังสือเล่มนี้ที่อาจารย์บอกไว้ว่า เราจะประทับใจใครก็ได้ เราอยากเก่งเหมือนใครก็ได้ เราจะเอาใครเป็นแบบอย่างเราก็ได้ เราอยากเก่งเหมือนใครก็ได้ แต่เราต้องเป็นตัวของเราเอง เมื่อเรียนรู้วิธีการพูดเหล่านี้จากอาจารย์จตุพลไปแล้ว ก็ควรเอาไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเอง สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้เกิดขึ้น เหมือนอย่างที่อาจารย์จตุพลทำสำเร็จอยู่ในขณะนี้


โดย.. อุษณีย์ เทพมณี





...
  
พูดให้เป็นอย่างนักพูด
เป็นหนังสือที่สัมภาษณ์ นักพูดระดับชาติ เช่น อ.ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ , อ.สุขุม นวลสกุล,อ.จตุพล ชมพูนิช,อ.สุนีย์ สินธุเดชะ,อ.อภิชาติ ดำดี ฯลฯ
จากการอ่าน การตอบของบรรดานักพูดทำให้กระผมได้แง่มุมมุมมองเกี่ยวกับการพูด อีกทั้งยังได้ทราบประสบการณ์ของบรรดานักพูด วิธีการฝึกการพูดต่าง ฯลฯ เป็นหนังสือที่น่าสนใจอีกเล่มหนึ่งครับ
ราคา 95 บาท ตอนนี้ไม่ทราบว่าจะมีการพิมพ์ขึ้นใหม่หรือไม่ครับ
...
  
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ...ท่านก็สามารถทำได้
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ...ท่านก็สามารถทำได้
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
1.เล่นกีฬาที่ตนเองชอบ การเล่นกีฬาจะช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำให้มีสมาธิ ทำให้ร่างกายแข็งแรง อีกทั้งการเล่นกีฬายังสามารถช่วยในการทำธุรกิจได้อีกด้วย เช่น การเล่นกอล์ฟ หลายคนเล่นกอล์ฟเพื่อสร้างเครือข่ายในเชิงธุรกิจ บางคนใช้สนามกอล์ฟเจรจาการค้า บางคนเกิดความคิดใหม่ๆและได้รู้จักคนใหม่ๆในระหว่างเล่นกอล์ฟ
2.ความวิตกกังวลเล็กน้อยเป็นสิ่งที่ดี หากว่าท่านเป็นคนที่ไม่มีความวิตกกังวลเลย ชีวิตของท่านก็จะเฉื่อยชา ไม่มีความกระตือรือร้น แต่ถ้าหากท่านมีความวิตกกังวลที่มากจนเกินไป ท่านก็อาจจะกลายเป็นคนวิกลจริตได้ บุคคลที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากมักเป็นคนที่มีความวิตกกังวลเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ถ้าหากว่าท่านได้รับเชิญไปพูดที่ใดสักแห่ง ทั้งนี้ท่านมีความวิตกกังวลเล็กน้อยว่าสิ่งที่ท่านจะนำไปพูดอาจทำไม่ได้ดีนัก ท่านก็จะมีการเตรียมตัวไปพูดเป็นอย่างดี เมื่อท่านเตรียมตัวไปดี ท่านก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการพูดในครั้งนั้น แต่หากว่าท่านไม่มีความวิตกกังวลเลย ท่านก็จะเป็นคนเฉื่อยชา ไม่มีการเตรียมการพูด พอท่านขึ้นไปพูดท่านก็จะมีโอกาสล้มเหลวได้โดยง่าย ในทางกลับกันถ้าหากท่านวิตกกังวลมากจนเกินไป ก็จะทำให้ท่านนอนไม่หลับและอาจจะเป็นผลร้ายต่อสุขภาพร่างกายของท่านได้
3.กล้าเดินหน้าลุย คนธรรมดาสามัญทั่วๆไป ที่มีความคิดดีแต่มักไปไม่ถึงไหน ก็เนื่องมาจากการขาดความกล้าในการทำงาน เมื่อท่านมีความฝัน มีเป้าหมาย มีการวางแผนที่ดี ท่านควรกล้าเดินหน้าลุย ไม่ต้องรอให้ทุกอย่างพร้อมสมบูรณ์ คนที่ประสบความสำเร็จ มักไม่รอความพร้อมที่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วจึงลงมือทำ แต่เมื่อเขาเห็นโอกาส มีความพร้อมพอสมควร เขาจึงเริ่มเดินหน้าทันที
4.ทำในสิ่งที่สวนกระแส พวกเราหลายๆคนที่มีพ่อแม่พี่น้องเป็นเกษตรกร มักรู้ดีว่า เกษตรกรส่วนใหญ่มักทำตามกระแส เมื่อเห็นสินค้าใดขายดีก็จะแห่ทำตาม เช่น เห็นคนปลูกไม้สัก เห็นคนปลูกลิ้นจี่ เห็นคนปลูกส้ม ก็แห่กันปลูกจนในที่สุด ราคาพืชผลที่เราปลูกจากราคาขายที่ขายได้ในราคาที่แพงๆ กลับกลายเป็นราคาตกต่ำ ก็เนื่องมาจากมีคนปลูกมากจนเกินไป ดังนั้นคนที่ประสบความสำเร็จซึ่งมีอยู่เพียงจำนวนน้อย มักมีความคิดในการทำในสิ่งที่สวนกระแส ไม่ทำตามกระแสของคนส่วนใหญ่ หรือ เราอาจจะเคยได้ยินว่านักลงทุนหุ้นที่ประสบความสำเร็จ ควรซื้อหุ้นเมื่อมีคนจำนวนมากต้องการขาย (ก็จะซื้อได้ในราคาถูก) ในขณะเดียวกันควรขายหุ้นในขณะที่มีคนต้องการซื้อจำนวนมาก (ก็จะขายได้ในราคาแพง)
5.สร้างแรงปรารถนา นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีแรงปรารถนาที่ต้องการได้รับชัยชนะ หากขาดแรงปรารถนา นักกีฬาคนนั้นก็จะไม่มีความกระตือรือร้นในการฝึกซ้อม ขาดระเบียบวินัยในการซ้อม คนที่ประสบความสำเร็จมักเป็นคนที่มีแรงปรารถนาภายในตนเอง ถ้าหากท่านยังขาดแรงปรารถนาในตนเองก็ขอให้ท่านจงสร้างมันขึ้นมาแล้วท่านก็จะเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ
6.ระดมคนเก่งๆมาช่วยงาน หากใครเคยได้ดูภาพยนตร์เรื่องสามก๊ก แล้ววิเคราะห์ก็จะเห็นได้ว่า ก๊กที่มีความเจริญรุ่งเรืองจะเป็นก๊กที่แสวงหาคนเก่งๆเข้ามาช่วยงาน แต่ตรงกันข้ามก๊กที่ถูกยึดหรือก๊กที่ล่มสลาย มักมีคนที่ไม่มีคุณภาพเข้ามาช่วยงาน ดังนั้นถ้าหากต้องการให้ธุรกิจของท่านเจริญเติบโตก้าวหน้า ท่านจึงควรรีบระดมหาคนเก่งๆมาช่วยงาน ธุรกิจของท่านก็จะขยายตัวอย่างรวดเร็ว
7.พัฒนาให้มีความก้าวหน้าในทุกๆวัน บุคคล องค์กร หน่วยงาน ที่ประสบความสำเร็จมักมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ถ้าหากว่า บุคคล องค์กร หน่วยงาน ไหนหยุดอยู่กับที่แสดงว่า บุคคล องค์กร หน่วยงาน นั้นจะเกิดความล้าหลังขึ้นมาทันที เพราะโลกยุคปัจจุบันเป็นโลกยุคแห่งการแข่งขัน ถ้าหากว่าเราเพียงแต่กำหนดให้เราต้องพัฒนาให้มีความก้าวหน้าเพียงวันละ 2 เปอร์เซ็นต์ เพียงแค่หนึ่งปีเราจะสามารถพัฒนาตนให้มีความก้าวหน้าไปอีกสักเท่าไร ศักยภาพของท่าน องค์กรท่าน หน่วยงานของท่านก็จะมีอัตราเจริญเติบโตขึ้นทันทีถึง สองเท่า ห้าเท่า สิบเท่า ยี่สิบเท่า ฯลฯ
...
  
สามก๊กกับกลยุทธ์การตลาด
สามก๊กกับกลยุทธ์การตลาด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ที่นั่งที่ดีที่สุดคือที่นั่งในหัวใจคน , รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง, อันธรรมดาการทำสงครามจะชนะอย่างเดียวไม่ได้ย่อมมีแพ้บ้างชนะบ้าง....คำคมสุภาษิตเหล่านี้ มีในหนังสือเรื่องสามก๊ก..
สามก๊ก เป็นวรรณกรรมจีนแต่อิงประวัติศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวกับการทำสงครามเพื่อแย่งชิงดินแดน ซึ่งภายในวรรณกรรมเรื่องนี้ ได้ให้ความรู้ทางด้าน ตำราพิชัยสงครามภาคปฏิบัติ การบริหาร การเมือง การจัดการ จิตวิทยา ซึ่งเนื้อหาเหล่านี้ นักการตลาดสามารถนำเอามาประยุกต์ใช้ได้ ดังต่อไปนี้
1.การคิดนวัตกรรมใหม่ๆ การทำสงครามในวรรณกรรมสามก๊ก เราจะเห็นได้ว่า ก๊กใด กลุ่มใด ที่สามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆได้มักจะได้เปรียบในการทำศึกสงคราม เช่น ขงเบ้งประดิษฐ์หรือคิดค้นโคยนต์ซึ่งมีกลไกต่างๆ เพื่อนำเอาไปใช้ขนเสบียง สามารถเดินทางได้ในที่ต่างๆได้อย่างสะดวก ทำให้ประหยัดกำลังและแรงงานของทหารในการขนเสบียง , เครื่องยิงหิน ของ เล่าหัว (กุนซือของโจโฉ) ได้ประดิษฐ์อาวุธนี้เพื่อพิชิตหอรบของอ้วนเสี้ยว ในสงคราม ยุทธการกัวต๋อ
เราจะเห็นได้ว่า ก๊กใด กลุ่มใด ที่มีการคิดค้น ประดิษฐ์ อาวุธหรือเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้ในการทำสงครามย่อมได้เปรียบ ก๊กหรือกลุ่มอื่นๆ เพราะ นวัตกรรมใหม่ๆที่สร้างขึ้นมามักเป็นเครื่องทุ่นแรงในการทำงาน เช่นเดียวกัน หากว่านักการตลาดผู้ใดสามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาใช้ในการทำการตลาด นักการตลาดผู้นั้น มักจะได้เปรียบในการต่อสู้ทางการตลาด
2.ลับ ลวง พราง เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ใช้ในสามก๊ก ค่อนข้างมาก เช่น กลศึกปิดเมือง ขงเบ้งเจอสุมาอี้ปิดค่าย แต่ขงเบ้งเก่งกาจและมีปัญญาจึงใช้ กลยุทธ์ ลับ ลวง พราง เปิดประตูค่าย แล้วตนเองก็ตีขิมหรือพิณ อย่างสบายอารมณ์ สุมาอี้เป็นคนคิดมาก จึงไม่กล้าบุกเข้าไปในค่าย แล้วสั่งลูกน้องให้ถอยทัพ กลยุทธ์ ลับ ลวง พราง จึงนิยมใช้ในการทหาร การเมือง รวมทั้งการตลาด ตัวอย่างการปล่อยข่าวของบางบริษัท เพื่อทำการเบี่ยงเบนความสนใจหรือทำให้คู่แข่งเข้าใจผิด เป็นต้น
3.กลยุทธ์แบบ กองโจรหรือป่าล้อมเมือง คือกลยุทธ์ในการโจมตีคู่แข่งในจุดที่คู่แข่งไม่ให้ความสนใจ หรือป้องกัน หรือประมาท เช่น การทำการตลาดของสินค้า ในต่างจังหวัดก่อนที่จะเข้าไปทำการตลาดในเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ๆ
4.กลยุทธ์ตีชิงตามไฟ เป็นกลยุทธ์ที่ศัตรูยังอยู่ในสถานการณ์ที่อ่อนแอ ย่ำแย่ เราควรรีบฉกฉวยโอกาสเข้าทำศึกเพื่อให้ได้รับชัยชนะ ตัวอย่างเช่น ตั๋งโต๊ะ ฉกฉวยโอกาสยึดเมืองหลวงและราชสำนักของพระเจ้าหองจูเหียบมาเป็นของตนเอง เช่นกันหากว่าคู่แข่งของเรากำลังอ่อนแอ เจอข่าวร้าย เจอมรสุมทางธุรกิจ นักการตลาดก็ควรใช้จังหวะในการขยายฐานการตลาดหรือทำการตลาดเพื่อช่วงชิงฐานลูกค้า
5.กลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิน เป็นกลยุทธ์ที่โจมตีศัตรูในจุดที่ศัตรูคาดไม่ถึง เช่น ขงเบ้งหลอกล่อ เฮ็กเจียวให้เกิดความสับสน หลงกล ในการนำกำลังทหารเฝ้าระวังการบุกโจมตีด่านตันฉอง
6.กลยุทธ์ตีหญ้าให้งูตื่น เป็นกลยุทธ์ที่ หากมีสิ่งใดพึงสงสัย ผิดแผกจากเดิม ควรส่งคนไปสอดแนมให้มั่นใจเสียก่อน และหากศัตรูสงบนิ่งก็พึงสร้างสถานการณ์ให้ศัตรูเคลื่อนไหวเพื่อเกิดช่องโหว่ ดังตัวอย่าง ขงเบ้งต้องการดูชั้นเชิงกองกำลังทหารของโจโฉ เมื่อคราวเล่าปี่นำกำลังทหารไปตีฮันต๋ง จึงหลอกให้โจโฉเคลื่อนไหว กำลังพล
7.กลยุทธ์จับโจรเอาหัวโจก เป็นกลยุทธ์ที่ทำศึกสงคราม ต้องบุกโจมตีศัตรูในจุดยุทธศาสตร์ของกองทัพ เช่น ขงเบ้งทำสงครามกับวุยก๊ก จึงออกอุบายกำจัดสุมาอี้ เพราะขงเบ้งรู้ดีว่า หากขาดสุมาอี้แล้วกองทัพของวุยก๊ก ก็จะไม่มีความยิ่งใหญ่อีกต่อไป
8.กลยุทธ์กวนน้ำจับปลา เป็นกลยุทธ์ที่ฉกฉวยจังหวะที่ศัตรูเกิดความปั่นป่วยภายในกองทัพให้เป็นประโยชน์ เพื่อแย่งชิงผลประโยชน์มาเป็นของตนเอง แล้วจึงนำกำลังบุกเข้าโจมตีเพื่อให้ได้ชัยชนะ เช่น อ้วนเสี้ยว หลอกกองทัพซุนจ้านในการนำกองกำลังทหารบุกร่วมเข้าโจมตียึดเอากิจิ๋วจากฮันฮก
8.กลยุทธ์ข่าวสาร เป็นกลยุทธ์เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลข่าวสาร ประกอบการตัดสินใจในการทำการตลาด ยิ่งในยุคปัจจุบันนี้ การสื่อสารเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ เพราะโลกยุคปัจจุบันเป็นโลกไร้พรมแดน เราสามารถสื่อสารไปยังลูกค้าได้ทั่วทั้งประเทศ ทั่วทั้งโลก ก็ด้วยระบบเครือข่ายต่างๆ

9.กลยุทธ์หลบหนี เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ย่อมแพ้ชั่วคราว หากว่ากองกำลังของฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่ง เราก็ควรที่จะถอยไปตั้งหลักก่อน ไม่ควรปะทะ แต่ควรที่จะหลบเลี่ยงการปะทะหรือการเผชิญหน้า การถอยไม่ใช่เป็นสิ่งที่ผิด แต่เป็นธรรมดาของการทำสงคราม ไม่ควรคิดว่าตนเองเสียเกียรติหรือเสียหน้า
และยังมีอีกหลายกลยุทธ์ที่กระผมยังไม่ได้พูดถึง ท่านผู้อ่านสามารถไปหาอ่านได้ในหนังสือสามก๊ก หรือ ตำราพิชัยสงครามต่างๆได้ เพราะการทำสงคราม การทหาร การเมือง ไม่มีความแตกต่างกันมากนักกับการทำการตลาด และเราสามารถประยุกต์ใช้ กลยุทธ์ต่างๆเหล่านี้ได้กับการตลาด



...
  
ผิดเป็นครู
ผิดเป็นครู
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
“ ผิดเป็นครู ” เป็นคำพูดของคนโบราณที่ใช้ในการสอนคน คนเราทุกๆคน สามารถทำผิดพลาดกันได้ ฉะนั้นความผิดที่เกิดขึ้นหากใครสามารถนำมาใช้เป็นบทเรียน เป็นประสบการณ์หรือสอนเตือนใจตนได้ ก็จะเป็นครูที่ดี
ในโลกนี้ไม่มีใครเลยที่ไม่เคยทำผิดพลาด คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลยคือคนที่นั่งอยู่เฉยๆ แต่เมื่อเราผิดพลาด เราจะยอมรับความผิดพลาดนั้นได้ไหม โง่ย่อมต้องมาก่อนฉลาด หลายๆคนคงเคยถูกหลอก จากคนที่ชอบโกง ชอบเอารัดเอาเปรียบ หากว่าเราเอาแต่โทษตัวเองหรือโกรธแค้น ความโกรธแค้นนั้นก็จะมาทำลายจิตใจของเรา
จงให้อภัยกับความผิดพลาด การให้อภัยกับความผิดพลาดก็คือการให้อภัยตัวเราเอง จะมีประโยชน์อะไร ที่มัวแต่ทำลายตนเอง ด้วยการคิดทบทวนซ้ำซากกับความผิดพลาดที่ได้เกิดขึ้น คนอื่นๆที่ทำให้เราเกิดความผิดพลาดเขาอาจลืมไปเรียบร้อยแล้ว ก็คงเหลือแต่เราที่ยังจำ จงให้อภัยตนเองและให้อภัยผู้อื่น
ปัญหามีไว้ให้แก้ไม่ได้มีไว้ให้แบก ทุกปัญหามีทางแก้แต่ถ้าหากปัญหาไหนยังไม่มีทางแก้ ก็ต้องปล่อยมันไป อย่าไปมีความทุกข์กับปัญหา จนก่อให้เกิดความไม่สบายใจ อย่ามัวเศร้าโศกกับปัญหา จงมองปัญหาเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเกิดขึ้นอย่างเป็นปกติ จงใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาและไม่ควรทำปัญหาเล็กๆให้เป็นปัญหาใหญ่
จงกล้ากล่าวคำ “ขอโทษ” หากว่าท่านทำผิดกับผู้อื่น ในช่วงเวลาของคนเราอาจเคยกระทำผิดพลาดต่อผู้อื่นไม่ว่าเรื่องของการทำงาน การดำเนินชีวิต สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือ เราควรกล่าวคำ “ ขอโทษ ” หากรู้ว่าตนทำผิด การขอโทษจะทำให้ผู้อื่นให้อภัยในความกล้าหาญของเรา อีกทั้งยังจะยินยอมช่วยเหลือและให้โอกาสเราอีกครั้ง
ความผิดพลาดล้มเหลวก่อให้เกิดการประสบความสำเร็จ คนที่ประสบความสำเร็จมักเคยทำสิ่งที่ผิดพลาดล้มเหลวมาด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครผู้ใดเลยที่ไม่เคยทำผิดพลาดล้มเหลว จงเปลี่ยนความคิด จงอย่าเสียใจมากเกินไปในสิ่งที่เราทำผิดพลาด แต่จงปลุกพลังภายในตัวเองให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ใหม่อีกครั้ง หากคิดลบชีวิตก็มักจะตกต่ำลง แต่หากคิดบวกชีวิตก็จะพัฒนาขึ้นเจริญเติบโตขึ้น
จงเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส หากว่าคุณเบื่องานแบบสุดๆแต่ต้องทนอยู่ แล้วในที่สุดคุณถูกให้ออกจากงาน จงกระโดดโลดเต้นดีใจที่เราจะได้มีโอกาสได้ทำงานที่เราชอบ , เมื่อถูกคนรักทิ้ง เราก็ต้องดีใจที่เราได้มีโอกาสเป็นอิสระและในอนาคตเราจะได้เจอคนที่ดีๆ เข้าใจเรา ฯลฯ
ดังนั้น สิ่งที่มีความสำคัญที่สุด สำหรับการแก้ไขความผิดพลาดล้มเหลว สิ่งนั้นก็คือตัวของคุณเอง คุณสามารถนำสิ่งที่ผิดพลาดมาเป็นประโยชน์ให้แก่ตัวเองได้ อีกทั้งเมื่อเจอความผิดพลาดล้มเหลว บางคนเสียใจ ซ้ำเติมตัวเอง จงเปลี่ยนแปลงทัศนคติเสียใหม่ ว่าคนเราย่อมต้องเกิดความผิดพลาดเป็นสิ่งธรรมดา
จงเอาความผิดพลาดของตนเอง มาเป็นครูและจงเอาความผิดพลาดของผู้อื่น มาเป็นครู แล้วท่านจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

...
  
Digital Marketing for SME
Digital Marketing for SME
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
www.drsuthichai.com
ธุรกิจ SME (Small and Medium Enterprises) หรือ ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง ในการประกอบธุรกิจ ธุรกิจ SME อาจเสียเปรียบธุรกิจขนาดใหญ่ ในเรื่องของเงินทุน ในเรื่องของบุคลากร ในเรื่องของเครื่องจักรอุปกรณ์ แต่หากว่าเรามองลงไปให้ลึกซึ้ง เราจะเห็นได้ว่า ธุรกิจ SME จะมีความได้เปรียบธุรกิจขนาดใหญ่ อยู่หลายเรื่องด้วยกัน เช่น เรื่องความคล่องตัว การคิดสร้างสรรค์ การบริหารที่รวดเร็วกว่าในเชิงนโยบาย เปรียบเทียบดังเช่น ธุรกิจขนาดใหญ่เป็นปลาตัวใหญ่ ธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็กเป็นปลาตัวเล็ก ปลาตัวใหญ่อาจจะมีโอกาสกินปลาตัวเล็กก็จริง แต่ปลาตัวใหญ่ จะเคลื่อนไหวได้ช้ามาก หรือ เปรียบเทียบธุรกิจขนาดใหญ่เป็นเรือลำใหญ่ ธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็ก เปรียบดังเรือลำเล็ก เรือลำเล็ก อาจแล่นไปช้ากว่า แต่ เวลาจะเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา เรือลำเล็กจะเลี้ยวได้เร็วกว่าเรือลำใหญ่
โลกในยุคปัจจุบัน เราต้องยอมรับกันว่าเป็นยุคของเทคโนโลยี โลกของยุค Digital หากว่าเราได้มองดูไปรอบๆตัว เราจะเห็นผู้คน ได้อ่าน ได้เล่น ได้ดู ข่าวสาร ข้อมูล ผ่านทาง Social Media ซึ่งส่วนใหญ่จะดูผ่านทางช่องทาง Mobile ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงาน
คนในยุคปัจจุบัน หากไม่ยอมเรียนรู้ เทคโนโลยีหรือDigital ก็จะล้าหลัง การทำธุรกิจ ในยุคปัจจุบันก็เช่นกัน ไม่ว่าจะผลิตสินค้าหรือบริการ หากว่า บริษัท ไม่ได้ทำการตลาดผ่านเทคโนโลยีหรือDigital ก็จะเกิดการเสียเปรียบคู่แข่งขัน
แล้วการทำการตลาด Digital Marketing คือ อะไร Digital Marketing คือ การทำธุรกิจ การขายสินค้า การทำการตลาดเชิงสร้างสรรค์ผ่านช่องทางในโลก Internet และ Technology โดยใช้ Social Network เป็นเครื่องมือทางการตลาด
Digital Marketing Trend – แนวโน้มและภาพรวมในตลาดดิจิทัล มีงานสำรวจของ Morgan Stanley Research ในปี 2010 มีผู้ใช้สื่อ Social Network ผ่าน WebSite ต่างๆมีจำนวนเกือบ 900 ล้านล้านคนและมีอัตราการเพิ่มขึ้นเกือบ 40%ต่อปี เลยทีเดียว

Digital Marketing Planning – การทำการตลาดที่ดีต้องมีการวางแผน การทำการตลาดดิจิทัลก็เช่นเดียวกัน เราจะต้องวางแผนก่อนเป็นอันดับแรกๆ ว่าเราจะใช้เครื่องมืออะไร ในช่วงไหน งบประมาณต้องใช้เท่าไร หรือจะใช้สื่ออะไรผสมผสานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำการตลาดมากขึ้น
Create Online Presence – การทำการตลาดที่ดี เราต้องมีการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของตนเอง เราจำเป็นจะต้องสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ด้วย Web, blog, Apps, และ Social Media Page การสร้างตัวตนของตัวเองจะทำให้ ลูกค้าหรือผู้พบเห็นทราบว่า เรากำลัง ขายอะไร เรากำลังทำธุรกิจอะไร ซึ่งคนที่สร้างสรรค์คำ สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ทั้งภาพ ทั้งเสียง เพื่อนำมาเสนอ จะเป็นที่น่าสนใจของผู้ชมหรือผู้เข้าไปเยี่ยมชม
Search Marketing – การทำการตลาดให้ติดอันดับ เราจำเป็นจะต้องทำเว็บไซต์หรือเครื่องมือของเราให้ติดอันดับที่ดีๆ บน Search Engine(โปรแกรมค้นหา) เช่น Google , Yahoo , MSN
Social Media Marketing – เครื่องมืออีกชิ้นหนึ่งที่มีความนิยมกันเพื่อจะโปรโมทธุรกิจผ่าน Social Media เครื่องมือต่างๆ ที่นิยม เช่น Facebook, Youtube, Line , twitter และ Instagram ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จต้องมีหรือต้องทำ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับชมหรือติดตาม เพราะถ้าเลือกใช้ช่องทางผิด ก็จะทำให้เราเสียเวลาและค่าใช้จ่ายไปโดยใช่เหตุ ตัวอย่าง twitter ผู้ที่ใช้ twitter มักเป็นกลุ่ม นักข่าว นักการเมือง ซึ่งผู้ใช้ สามารถส่งข้อความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษรต่อครั้ง ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
Email Marketing – การขายผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นสิ่งทำกันอย่างแพร่หลาย เพราะราคาถูก รวดเร็ว สะดวก ทำได้ง่าย ประหยัด
Location-Based Marketing – ที่อยู่หรือที่ตั้งธุรกิจบนโลกออนไลน์มีความสำคัญเพราะจะทำให้ลูกค้าทราบว่าสถานที่ของธุรกิจในโลกออนไลน์ของเราอยู่ที่ไหน
Digital Advertising – การที่จะทำให้ Web, blog, Apps, และ Social Media Page คนเข้ามาชมมากมาดูมาก เราอาจมีความจำเป็นที่จะต้องทำการโฆษณา ในยุคนี้มีบริษัทที่เขาช่วยให้ Web, blog, Apps, และ Social Media Page ติดอันดับ 1 มีมากมายเพียงแต่เราต้องเสียเงินจ่ายค่าบริการ
Digital Marketing Performance Monitoring – การบริหารจัดการการตลาด Digital Marketing จำเป็นต้องมี การตรวจสอบ มีการควบคุม มีการวัดผลความสำเร็จ ซึ่งจำเป็นจะต้องเรียนรู้ Google Analytics, Facebook Insight เป็นต้น
แนวโน้มการใช้ Digital Marketing ที่สำคัญคือ So Lo Mo
So = Social ในปัจจุบันนิยมใช้ Facebook จะเป็นตัวสร้างชุมชน ส่วน เว๊ปไซค์จะเป็นตัวให้รายละเอียดของสินค้า บริการ ผลิตภัณฑ์
Lo = Local มีการปักหมุดในแผนที่ เพื่อให้ลูกค้า รู้จักสถานที่ หรือบริษัทของเรา
Mo = Mobile การใช้มือถือในการทำการตลาดเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะในมือถือในปัจจุบันสามารถทำอะไรได้มากมาย อีกทั้งยังมีราคาถูก
ตัวอย่าง Facebook ร้านพี่อ้อ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง(เพชรบุรีซอย 5) ใช้ social คือ Facebook เป็นชุมชน มีการปักหมุนคือ เพชรบุรีซอย 5 ตอนนี้มีคนกดถูกใจเกือบ 300,000 คน
ทูนหัวของบ่าว เป็น Facebook ของคนรักแมว มีคนกดถูกใจเกือบ 2,200,000 คน
ดังนั้น ธุรกิจ SME มีความจำเป็นที่จะต้องมีการทำการตลาดในโลกออนไลน์ เนื่องจากการทำการตลาด Digital Marketing มีราคาถูก ประหยัด สามารถสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ๆได้ง่ายกว่า อีกทั้งการทำการตลาด Digital Marketing ยังมีแนวโน้มที่ดีและคนรุ่นใหม่เข้าไปใช้กันมากในโลกอนาคตและโลกในยุคปัจจุบัน จึงทำให้มีลูกค้าเพิ่มจำนวนมากขึ้นในทุกๆปี
...
  
ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ
ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
1.กำหนดเป้าหมายว่าคุณต้องการอะไรอย่างแท้จริง ตัดสินใจให้แน่นอนว่าเราต้องการจะทำอะไร จะเป็นอะไร เช่น อยากทำธุรกิจขายอาหาร อยากเปิดร้านซักอบรีด อยากเป็นนักเขียน อยากเป็นนักการเมือง ฯลฯ จงกำหนดเป้าหมายแบบเจาะจง ไม่ใช่แบบคนจับจด เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่มีความแน่นอน เพราะไม่มีคนที่ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ที่ทำสิ่งหนึ่งแล้วไม่สำเร็จ แล้วเปลี่ยนมาทำสิ่งอื่นไปเรื่อยๆ แล้วประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ ทั้งนี้อาจเป็นความสำเร็จเพียงชั่วคราว ดังนั้น หากกำหนดทิศทางของตนเองได้ จงมุมานะไปให้ตลอดรอดฝั่ง
2.เขียนลงไปในกระดาษ จงเขียนเป้าหมายของท่านลงไปในกระดาษโดยละเอียด การเขียนลงในกระดาษจะทำให้การกำหนดเป้าหมายของเราเกิดความชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดพลัง จงเขียนละเอียดต่างๆ ลงไป เช่น เป้าหมาย แผนการ
ขั้นตอน กลยุทธ์ที่จะนำไปสู่เป้าหมาย
3.กำหนดวันเวลาเส้นตายที่จะนำพาเราไปสู่จุดมุ่งหมายปลายทาง เช่น เป้าหมายใหญ่เราจะใช้ระยะเวลากี่ปี เป้าหมายขนาดกลางเราจะใช้เวลากี่ปี เป้าหมายระยะสั้นเราจะใช้เวลาเท่าไร กำหนด วัน เดือน ปี ให้มีความแน่นอน จงอย่าได้ลงมือทำไปตามยถากรรมและปล่อยเวลาให้ผ่านไปด้วยที่ยังไม่มีการกำหนดระยะเวลา
4.ลงมือทำทันทีหรือททท. ขั้นตอนนี้ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก หากว่าท่านมีเป้าหมาย เขียนแผนการต่างๆลงในกระดาษ มีการกำหนดระยะเวลาเส้นตายแล้ว แต่ขาดการลงมือทำสิ่งต่างๆก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ สำหรับการลงมือทำ
ท่านควรลงมือทำอย่างเต็มที่ อย่างสุดกำลัง อย่างกระตือรือร้น
5.มีการตรวจสอบ ควบคุม ประเมินผล เป็นระยะๆ เมื่อเราได้ลงมือทำ สถานการณ์ต่างๆ อาจไม่เอื้ออำนวย สิ่งต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราควรมีการตรวจสอบ ควบคุม ประเมินผล เพื่อที่จะสามารถปรับทิศทางหรือปรับแผนของเราได้ การประเมิลผล ควรกำหนดเป็นระยะยาว ระยะกลางและระยะสั้น ให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้
เราทุกคนสามารถประสบความสำเร็จเหมือนกับคนที่ประสบความสำเร็จได้เพียงด้วยขั้นตอนง่ายๆ โดยการกำหนดเป้าหมาย เขียนเป้าหมายลงในกระดาษ เขียนแผนการ อย่างละเอียด กำหนดวันเวลาเส้นตายที่แน่นอน ลงมือทำทันทีและการตรวจสอบ ควบคุม ประเมินผล หากท่านปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จอย่างแรงกล้า ไม่ต้องรอวันพรุ่งนี้ วันมะรืนนี้ วันมะเรื่องนี้ แต่จงลงมือทำตั้งแต่ ตอนนี้หรือเดี๋ยวนี้
...
  
ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า
ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
แลอดีต.... เมื่อเหลียวหลังไปดูอดีตหลายๆคนมักเสียใจว่า สิ่งที่เราอยากทำหรือควรทำน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ทำไมเราถึงไม่ทำ เช่น การเรียน บางคนเสียใจว่า ทำไมตอนเด็กๆเราน่าจะตั้งใจเรียนกว่านี้ หากตั้งใจตอนนี้ชีวิตของเราคงเจริญก้าวหน้ามากกว่าปัจจุบัน
อยู่กับปัจจุบัน.... แต่เราก็ไม่สามารถกลับไปเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในอดีตได้อีกแล้ว เพราะสิ่งใดในชีวิตคนเราผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้อีก จงอยู่กับชีวิตในปัจจุบัน จงใช้ชีวิตอยู่กับวันนี้ อย่าได้เสียใจกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต แต่จงนำประสบการณ์ทั้งดีและไม่ดีในอดีต นำมาเป็นบทเรียนต่อไป
ล้มได้ก็ลุกได้....คนเราทุกคนในโลกนี้ เกิดมาแล้วย่อมต้องพบกับปัญหาอุปสรรคต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาเงินทอง ปัญหาการทำงาน ปัญหาความรัก ปัญหาครอบครัว ฯลฯ บางคนยอมพ่ายแพ้ต่อปัญหา บางคนยอมรับกับความผิดหวัง ความล้มเหลว แต่คนที่ประสบความสำเร็จ เมื่อเขาพบกับความล้มเหลว เขาจะลุกขึ้นสู้อีกครับ
พ่ายแพ้ชั่วคราว... คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ เขามักมีความเข้าใจปรัชญาของคำว่า “ การพ่ายแพ้ชั่วคราว”
การพ่ายแพ้มักไม่สามารถทำให้เราจบสิ้น แต่ความล้มเลิกต่างหากที่ทำให้คนเราจบสิ้น จงกระโดดโลดเต้นดีใจแล้วร้องว่า “ความสำเร็จรอเราอยู่ข้างหน้า” แล้วเริ่มต้นต่อสู้ใหม่อีกครั้ง
จงกำหนดชีวิตของเราด้วยตัวตนของเราเอง....ไม่มีใครที่จะกำหนดชีวิตของเราหรือรู้จักตัวตนของเราได้ดีกว่าตัวเราเอง จงกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง อย่าให้ใครมาเป็นผู้กำหนด คนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิต ไม่ได้มีชีวิตให้คนอื่นใช้ ชีวิตจะดีหรือไม่ดี ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองเป็นสำคัญ
เดินต่อไป...... คนเราเปลี่ยนแปลงเรื่องราวที่ผ่านพ้นมาในอดีตไม่ได้ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้ จงก้าวเดินต่อไป จงหาเป้าหมายของชีวิตตั้งแต่บัดนี้ จงจับจ้องที่เป้าหมาย ไม่ใช่จับจ้องที่อุปสรรค แล้วชีวิตของท่านก็จะก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและมีความสุข เพราะโลกทั้งโลกมักเปิดทางให้กับคนที่รู้ตัวว่าเขาจะเดินทางไปในทิศทางใด ขอให้ท่านจงเดินไปข้างหน้า ระยะทางหมื่นลี้ ย่อมเริ่มต้นจากก้าวแรกเสมอ
ถ้าไม่กล้า...ก็ไม่มีวันเดินหน้า.... คนเราเมื่อไม่กล้าที่จะทำอะไร ก็ไม่ควรหวังว่าจะได้อะไร จงกล้าที่จะไปตามหาความฝันของตนเองตามเส้นทางเดินของตนเอง ถึงแม้คนรอบข้างของเราจะคัดค้าน ต่อต้าน ไม่เห็นด้วย ไม่มีการสนับสนุน ก็ตาม จงก้าวเดินไปสู่ความฝันอย่างมั่นใจ จงเลือกอาชีพที่ตนเองชอบและตนเองถนัด แต่ถ้าหากท่านยังหาสิ่งที่ใช่อาชีพที่ใช่ยังไม่เจอ จงหามันต่อไป แล้วจงกล้าที่จะก้าวเดินต่อไป อย่าได้หวั่นไหวกับอุปสรรคต่างๆ
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  [97]  [98]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.