หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ ทั้งหมด
การแต่งตัวกับนักพูด
การแต่งตัวกับนักพูด
นักพูดกับการแต่งกาย

โดย...สุทธิชัย ปัญญโรจน์


“สำเนียงบอกภาษา กิริยาบอกสกุล”


อากัปกิริยาท่าทาง รวมถึงเครื่องแต่งกายขณะอยู่ต่อหน้าที่ชุมชนนั้น เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเครื่องแต่งกายเป็นการบ่งบอกถึงบุคลิกภาพของผู้พูดด้วย ซึ่งการแต่งกายที่ดีนั้น ควรแต่งกายให้ดูเรียบร้อย สะอาด เหมาะสม ถูกกาลเทศะ โดยหลักแล้ว เขามักจะยึดหลักว่า


นักพูดที่ดีควรแต่งกายให้เสมอกับผู้ฟัง หรือไม่ก็ให้เหนือกว่าผู้ฟังเล็กน้อย แต่อย่าให้ถึงกับแต่งกายให้เหนือกว่าผู้ฟังมากๆ เพราะจะเกิดการแบ่งแยก เช่น การไปพูดกับชาวไร่ชาวนา ก็ควรใส่เสื้อผ้าเป็นผ้าพื้นเมือง หรือเหมือนกับชาวไร่ ชาวนาเลย แต่ขอให้ดูสะอาด เรียบร้อยเอาไว้ ไม่ควรใส่เสื้อสูทไปพูดคุย หรือถ้าเป็นนักการเมือง ก็ไม่ควรใส่เสื้อสูท ไปหาเสียงกับชาวไร่ ชาวนา เพราะทำให้ดูแล้วแตกต่างกันมาก แต่การแต่งตัวแย่กว่า หรือโทรมกว่าผู้ฟังยิ่งเป็นความผิดร้ายแรงยิ่งกว่า เพราะถือว่าไม่ให้เกียรติคนฟัง ดูถูกคนฟัง ไม่เคารพคนฟัง


การใส่เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งร่างกายก็มีส่วนสำคัญ ควรยึดถือหลักง่ายๆ ว่า เราจะไปพูดไม่ได้ไปเดินแฟชั่นโชว์หรือเดินแบบ ฉะนั้น เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งร่างกายก็ควรจะพอดีๆ อย่ามากไป หรือน้อยไป น้อยไปยังไม่เท่าไร แต่มากไปซิครับ อาจทำให้การพูดของเราต้องลดความสำคัญไปด้วย เพราะคนคอยแต่ดูเฟอร์นิเจอร์ ไม่สนใจฟังการพูดของเรา เช่น บางคนใส่ตุ้มหูเป็นช้าง 10 เชือก ทั้งซ้ายและขวา เวลาหันซ้ายหันขวา ช้างทั้งหมดก็วิ่งพล่านเต็มหูทั้งสองข้าง ทำให้คนคอยแต่จะดูช้าง ไม่สนใจการพูด บางคนเอาปากกาจำนวนมากติดไว้ที่กระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋ากางเกง ทำให้คนฟังคอยแต่จะนับจำนวนปากกาอยู่เรื่อยไป ทำให้การพูดลดความสำคัญลง สุภาพสตรีบางคนแต่งตัว โดยนำเข็มกลัดเป็นรูปเครื่องบินจำนวนมากติดไว้ที่หน้าอก ทำให้คนฟังคอยแต่จะดูเครื่องบิน บางคนนับเครื่องบิน บางคนดูเครื่องบิน แต่บางคนบอกว่าดูลานบินต่างหาก


ถุงเท้า กับรองเท้า ก็มีส่วนสำคัญ เพราะนักพูดจำนวนมากไม่ให้ความสำคัญ แล้วเวลาที่จะต้องถอดถึงรู้ว่ามันสำคัญมาก เพราะผู้เขียนเองก็เคยประสบกับตัวเอง เพราะมีบางครั้งใส่ถุงเท้าผิดข้าง ผิดสี ผิดแบบ ทำให้ผู้พบเห็นสอบถาม ครั้งนั้นผู้เขียนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน (เลยเอาหน้าไว้ที่เดิม) ตอนหลังผู้เขียนเลยใช้วิธีดังนี้ ผู้เขียนซื้อถุงเท้าทีหนึ่ง 2 โหล แบบเดียวกัน สีเดียวกัน เพราะถ้าข้างไหนเสียหรือชำรุด ก็ทิ้ง แต่สามารถใช้อีกข้างหนึ่งใส่ได้ รองเท้าก็เหมือนกัน ผู้เขียนซื้อทีเดียว 2-3 คู่ แบบเดียวกัน สีเดียวกัน เพราะถ้าข้างไหนชำรุดยังมีอีกข้างหนึ่งใช้แทนกันได้ หรือเปลี่ยนกันใส่ ก็ทำให้ประหยัดเงินดี และไม่ขายหน้าอีกเวลาใส่ผิดข้างเหมือนในอดีต


การแต่งกาย การวางท่าในขณะเริ่มพูดให้ดี เท่ากับการพูดได้สำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง









...
  
กลยุทธ์สู่ชัยชนะและความสำเร็จ ศิลปะแห่งการชนะใจคน
แต่งโดย...อนันช พิมพ์ครั้งที่ 2 โดยสำนักพิมพ์ไพลิน ภายในเล่มมีเรื่องราวเกี่ยวกับการพูด เช่น
พูดอย่างมีศิลปะ , คุยอย่างไรให้ชนะใจเขา , พูดในที่สาธารณชนให้คนประทับใจ , 30 มารยาทที่คุณต้องเคร่งครัด , ใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะชนะใจคน และชนะชีวิต ฯลฯ
หนังสือเล่มนี้เป็นกำลังใจให้คนรอบข้างได้ โลกทั้งใบก็อยู่ในมือคุณ ราบรื่นทุกวิถีทางสร้างความสำเร็จและความสุข ได้ทุกโอกาสที่ปรารถนา ถ้า คุณ ศึกษากลยุทธ์จากหนังสือเล่มนี้
...
  
ทอล์คโชว์ " การศึกษายุคใหม่ไฉไลกว่ายุคก่อน "
ทอล์คโชว์
สุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทอล์คโชว์ "การศึกษายุคใหม่ไฉไลกว่ายุคก่อน " ณ โรงเรียนฟากกว๊านวิทยา ...
  
ต้องโทษคดีอาญา
21
...
  
video เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ
21
...
  

21
...
  
ศิลปะการพูด
ศิลปะการพูด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
เป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันว่า “ การพูด ” เป็นสิ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิต สำหรับมนุษย์ทุกยุค ทุกสมัย ไม่ว่าอดีต ปัจจุบันหรืออนาคต ไม่ว่าจะชนชาติใด ภาษาใด วัยใด การพูดเป็นทั้งศาสตร์คือ สิ่งที่สามารถศึกษาหาความรู้ได้ การพูดเป็นศิลปะ กล่าวคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้
การพูดจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสังคมมนุษย์ และยิ่งเป็นนักประชาสัมพันธ์ นักจัดรายการ นักการเมือง นักเทศน์ นักการทูต อาจารย์ วิทยากร ฯลฯ ยิ่งจะต้องใช้การพูดอย่างมีศิลปะหรือบางแห่งอาจเรียกว่ามี “ วาทศิลป์”
การพูดจึงเป็นได้ทั้งยาพิษและยาหอม หมายถึง เราสามารถใช้คำพูดไปในทางสร้างสรรค์หรือทำลายก็ได้ การรู้จักใช้คำพูดให้ถูกกาลเทศะ จึงเป็นสิ่งสำคัญในขณะเดียวกัน ในทางกลับกัน การพูดโดยไม่คิดก็ย่อมนำพาเราไปสู่ความหายนะหรือสร้างความตกต่ำให้ชีวิตเราได้เช่นกัน
การพูดเป็นกุญแจนำทางไปสู่ความสำเร็จ นักขาย นักการเมือง นักสอนศาสนา นักจัดรายการ วิทยากร บุคคลเหล่านี้ ต้องอาศัยการพูดและต้องมีการฝึกฝนการพูด จึงจะประสบความสำเร็จในอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกพูดให้คนคล้อยตามหรือการใช้อารมณ์ขันในการสอดแทรกจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องเรียนรู้ พัฒนา จึงจะนำพาไปสู่ความสำเร็จในอาชีพได้
การจะพูดให้ได้ดีต้องมี “ อิทธิบาท 4 ” คือ ต้องมีฉันทะ คือมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะเป็นนักพูด วิริยะ คือ ความพากเพียรบากบั่นในการฝึกฝนการพูด จิตตะ คือ ต้องมีจิตใจจดจ่อต่อเป้าหมาย ไม่ทอดทิ้งเป้าหมาย วิมังสา คือ การใช้ปัญญาตรวจสอบทบทวนแก้ไขปรับปรุงสิ่งที่ทำให้ดียิ่งขึ้น
การพูดที่มีส่วนผสมโดย มีวาทศิลป์ มีหลักการ มีเหตุผล มีตลกขบขัน มีตัวอย่าง มีการอ้างอิง มีไหวพริบปฏิภาณ มักเป็นที่ชื่นชอบของบุคคลโดยทั่วไป และทำให้คนมีความนิยมชื่นชอบในตัวผู้พูด
บุคคลที่พูดเก่งมีวาทศิลป์ที่ดี มีความเป็นอัจฉริยะในการพูด มักเป็นคนที่มีความทะเยนทะยาน มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า มีพลังแห่งการเรียนรู้ที่สูง มีความทรงจำดี มีพลังสมาธิแน่วแน่ กล้าตัดสินใจเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ อีกทั้งยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์
อยากพูดให้ได้ดี ต้องหมั่นศึกษา วิเคราะห์การพูดของนักพูดชื่อดัง โดยอาจตามไปฟังนักพูดเรืองนาม นักพูดที่มีชื่อเสียง หรือยุคปัจจุบัน เป็นยุคสารสนเทศ เราสามารถตามดูนักพูดชื่อดังได้จากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะทางอินเตอร์เน็ต Youtube หรืออาจซื้อ VCD DVD ของนักพูดมาศึกษาได้
การพูดที่ดี ต้องมีจุดมุ่งหมายปลายทางแห่งการพูด จุดมุ่งหมายในการพูดแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ การพูดเพื่อบันเทิง การพูดให้ความรู้กับการพูดจูงใจ ผู้ที่ต้องการเป็นนักพูดควรต้องรู้ก่อนว่าจะนำพาผู้ฟังไปในจุดมุ่งหมายใด เช่น หากผู้ฟังต้องการฟัง การพูดแบบบันเทิง เราก็ต้องพูดในลักษณะทอล์คโชว์พูดให้สนุก พูดให้ตลกขบขัน ไม่ใช่พูดไปแล้วคนไม่หัวเราะเลย อย่างนี้ก็ประสบความสำเร็จยาก
บุคลิกภาพกับการพูด บุคลิกภาพมีความสำคัญมากในการพูดต่อหน้าที่ชุมชน บุคลิกภาพจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกประทับใจในตัวผู้พูด บุคลิกภาพในที่นี้รวมไปถึงบุคลิกภาพทั้งภายในและภายนอก เช่น ภายใน นิสัยใจคอ อารมณ์ ความรู้สึก ความรอบรู้ ฯลฯ ภายนอก ได้แก่การแต่งกาย ทรงผม ท่าทาง การเคลื่อนไหว การยืน การนั่ง ฯลฯ
นักพูดที่เก่งมักใช้ภาษาได้ดี เช่น ใช้ภาษาที่มีความชัดเจน อีกทั้งมีการเลือกใช้ถ้อยคำที่หลากหลาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยการค้นคว้า ฝึกฝน อ่าน เรียนรู้ จนจัดเจนในเรื่องของภาษาศาสตร์ เมื่อศึกษาไปมากๆ ก็จะสามารถสร้างประโยคและวลีต่างๆ ได้งดงามสละสลวยขึ้น
เสน่ห์การใช้เสียงเป็นศิลปะอีกอย่างหนึ่งในการพูด ถ้อยคำเพียงแต่บอกความหมายแต่เสียงทำให้เกิดความหวั่นไหวขึ้นในหัวใจ การพูดที่ดีต้องมีน้ำเสียงที่หลากหลาย โดยยึดหลักที่ว่า ต้องใช้เสียงให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องที่พูด
ใช้ระดับเสียง ให้มี หนัก เบา เว้นระยะ ต่างๆ ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องที่พูด
สรุปคือ ศิลปะการพูด เป็นเรื่องที่สามารถเรียนรู้ได้ ฝึกฝนได้ พัฒนาได้ ซึ่งการพูดแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถึงแม้จะอ่านหนังสือเล่มเดียวกัน เรียนรู้จากอาจารย์ท่านเดียวกัน แต่สิ่งที่ทำให้การพูดพูดแล้วดูน่าฟัง คนฟังชื่นชอบ สิ่งนั้นก็คือ ศิลปะในการพูดหรือการนำศาสตร์ทางการพูดมาใช้ทำให้เกิดความแตกต่างกันนั้นเอง

...
  
ปัญหาในการเขียนหนังสือ
ปัญหาในการเขียนหนังสือ
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
การเขียนไม่ว่าจะเป็นการเขียนผลงานทางวิชาการ งานเขียนสารคดี งานเขียนบทความ งานเขียนตำรา งานเขียนเรียงความ ฯลฯ มีคนเคยถามกระผมว่า เราควรเริ่มต้นอย่างไรดี การเริ่มต้นงานเขียนที่ดีนั้น ในความคิดของกระผมเราควรเริ่มต้นจากเรื่องที่เรารู้ก่อนเป็นอันดับแรก
เพราะการเริ่มต้นจากสิ่งที่เรารู้ ไม่ว่าโดยผ่านประสบการณ์จริง ผ่านการอ่าน ผ่านการวิจัย ผ่านการศึกษาค้นคว้า จะทำให้เรามีข้อมูลในการเขียน โดยไม่ต้องเสียเวลาไปค้นคว้า เพื่อหาข้อมูลอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งแตกต่างกับการเริ่มต้นในสิ่งที่ตนเองชอบ หรือเริ่มต้นการเขียนจากการเลือกเรื่องที่กำลังได้รับความนิยม จะทำให้เราต้องค้นคว้าหาข้อมูลจำนวนมาก อีกทั้งเราไม่มีประสบการณ์ในเรื่องราวนั้นๆ จะเป็นการยากลำบากมากกว่าการเลือกเรื่องในสิ่งที่เรารู้ สำหรับปัญหาในการเขียนหนังสือ มีดังนี้
1.ขาดแรงบันดาลใจในการเขียน แรงบันดาลใจมีความสำคัญต่อทุกอาชีพโดยเฉพาะอาชีพที่ต้องทำงานอิสระ ขาดการควบคุมตามกฎระเบียบเหมือนทำงานในบริษัท แต่การเป็นนักเขียนเราสามารถกำหนดเวลาเองได้ว่าเราจะทำงานเวลาไหน เมื่อไร ฉะนั้นหากขาดซึ่งแรงบันดาลใจในการเขียน จะทำให้เราไม่มีวินัย เราเขียนไป หยุดไปก็ได้โดยไม่มีใครมาดุด่าต่อว่า ดังนั้นการสร้างแรงบันดาลใจจึงเป็นสิ่งสำคัญมากต่อบุคคลที่ต้องการประสบความสำเร็จในงานเขียน สำหรับวิธีสร้างแรงบันดาลใจเราสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การกำหนดเป้าหมายว่าเราต้องการเป็นนักเขียนระดับใด จงเขียนเป้าหมายบ่อยๆเพื่อเตือนความทรงจำ , การสร้างภาพหรือหารางวัลแห่งความสำเร็จกล่าวคือให้หาภาพที่เราต้องการในอนาคตไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ เงินทอง ที่ตนเองต้องการติดตามบ้าน อีกทั้งควรจินตนาการถึงภาพเหล่านั้น บ่อยๆ , การอ่านหนังสือของนักเขียนดังๆ ที่ตนเองชอบ เป็นต้น
2.ขาดสมาธิ ขาดการอดทนและฝึกฝน งานเขียนหนังสือเป็นงานที่ต้องใช้สมาธิและความอดทน รวมทั้งการฝึกฝน ยิ่งถ้าต้องการเป็นนักเขียนระดับแนวหน้าของประเทศ ยิ่งต้องอาศัยความอดทนและการฝึกฝนอย่างมาก การไม่มีสมาธิและความอดทนจะทำให้ผลงานมีความไม่สมบูรณ์ ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน บางคนเขียนได้ครึ่งๆ กลางๆ แล้วก็หยุด ทิ้งงานเขียนชิ้นนั้นไปเลยก็มี
3.ขาดความมั่นใจในตนเอง หรือมีความกลัวต่างๆเกิดขึ้น เช่น กลัวว่าตนเองไม่เก่ง , กลัวว่าตนเองจบไม่สูง , กลัวว่าจะไม่มีคนอ่าน , กลัวเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เป็นต้น ฉะนั้น หากต้องการเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จจงทำลายความกลัวต่างๆนั้นเสีย อีกทั้งต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า เราทำได้ และไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิดโดยไม่มีการฝึกฝน ผิดพลาดใดๆ จงกล้าที่จะล้มเหลว อย่าได้กลัวหรือท้อแท้ ท้อถอย จงอ่านประวัตินักเขียนดังๆ แล้วจะเห็นว่านักเขียนที่ดังๆ มักเคยผ่านอุปสรรคต่างๆมาอย่างมากมาย
4. ขาดการวางแผน การวางแผนมีความสำคัญต่อบุคคลที่ต้องการประสบความสำเร็จ คนเรามีเวลาเท่ากันแต่บุคคลที่ประสบความสำเร็จกับบุคคลธรรมดา มักมีความแตกต่างกันในเรื่องของปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ปัจจัยหนึ่งก็คือ บุคคลที่ประสบความสำเร็จมักมีการวางแผน ซึ่งการวางแผนนั้น ท่านจะต้องกำหนดเวลาทำงานในการเขียนว่าท่านจะทำงานกี่โมงถึงกี่โมง โดยต้องมีวินัยในการปฏิบัติตามแผนนั้น อีกทั้งหากท่านมีงานประจำที่ต้องทำ แต่งานเขียนเป็นงานอดิเรก ท่านจงใช้เครื่องมือต่างๆ ช่วยให้เกิดประโยชน์เช่น ควรพก ปากกา สมุด ดินสอ เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องบันทึกต่างๆ เอาไว้เขียนหรือบันทึกในสิ่งที่ท่านต้องการเขียนแล้วนำไปเรียบเรียงในภายหลังก็จะเกิดประโยชน์เป็นอย่างมาก
สำหรับปัญหาในการเขียนหนังสือ หากเราวิเคราะห์กันจริงๆ แล้ว ปัญหาที่แท้จริงมักเกิดกับตัวเราเองทั้งสิ้น ฉะนั้น หากท่านต้องการเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ ท่านจึงควรแก้ไข พัฒนา ปรับปรุง ตนเอง อีกทั้งท่านต้องเชื่อว่าท่านสามารถเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จได้ สำหรับปัจจัยอื่นก็เป็นแค่ส่วนประกอบไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างบรรยากาศในการเขียน , การมีเครื่องมือที่ทันสมัยช่วยในงานเขียน , การมีครูหรือวิทยากรดีๆมาแนะนำงานเขียน เป็นต้น แต่สิ่งที่สำคัญทั้งหมดนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครหรือสิ่งใด แต่ขึ้นอยู่กับตัวท่านเองเป็นสำคัญ


...
  
จงแบ่งเวลาวันละ 1 ชั่วโมง
จงแบ่งเวลาวันละ 1 ชั่วโมง
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
ในสังคมยุคปัจจุบัน เป็นสังคมของการแข่งขัน ชิงดีชิงเด่นกัน ทำให้การดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคลต้องเป็นไปอย่างรีบเร่ง แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน แทบจะไม่มีเวลาให้แก่ตัวเอง เมื่อท่านกำลังสับสน วุ่นวาย ไม่เป็นตัวของตัวเอง จงแบ่งเวลาให้กับตัวเองเพียงวันละ 1 ชั่วโมง
1 ชั่วโมง สำหรับ การวางเป้าหมาย การวางแผนการ การคิด การทำสมาธิ การพิจารณาและการทบทวนเรื่องราวต่างๆ การอยู่กับตนเองอย่างสงบ เงียบๆ เพียงวันละ 1 ชั่วโมง จะทำให้ท่านรู้จักตัวเองมากขึ้น อีกทั้งบุคคลที่ประสบความสำเร็จมากๆ มักเป็นคนที่รู้จักตนเอง และมีความคิดเป็นของตนเอง อีกทั้งมักมีการแบ่งเวลาทำงานหรือในการอยู่ตามลำพังมากกว่าวันละ 1 ชั่วโมง เช่น
- โทมัส อัลวา เอดินสัน นักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์เอกของโลก เขาหมกหมุ่นอยู่กับตนเอง ทำงาน
ประดิษฐ์สิ่งต่างๆ เงียบๆในห้องทดลอง ประจำตลอดชั่วชีวิตของท่าน เขามีความมุ่งมั่นทำงาน ทุ่มเท ทำงานตลอดทั้งคืน จนบางครั้ง ต้องหอบเสื่อหอบหมอนไปนอนในห้องทดลอง บางครั้งมีคนเห็นท่านนั่งคนเดียวเงียบๆ จินตนาการเรื่องราวต่างๆ อย่างเงียบในที่ต่างๆ
- อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง เขาชอบทำงานในห้องทำงานคนเดียว เงียบๆ เขามีสมาธิมากใน
การทำงานของเขา มีคนเคยเล่าว่ามีเสียงระเบิดดังหน้าบ้าน เขาก็ยังไม่ได้ยินกับมุ่งหน้าทำงานของตนเองต่อไป
- ยอร์ช เบอร์นาร์ด ชอว์ นักประพันธ์ชื่อดังของโลก เขาจะแบ่งเวลาสำหรับตนเองและทำงานเขียนอย่างมี
สมาธิ โดยทุกๆวัน เขาจะต้องเขียนหนังสืออย่างน้อยไม่ต่ำกว่าวันละ 5 หน้า ทุกๆวัน
- อดอล์ ฮิตเลอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี เขามีความสามารถหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมือง
การพูดโน้มโน้มใจผู้ฟังชาวเยอรมนี การวางแผน การครองใจคน เขามีความชอบหลากหลาย เช่น ชอบเทคโนโลยี ชอบวิทยาศาสตร์ แต่ลักษณะนิสัยของฮิตเลอร์ที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างหนึ่งก็คือเขาจะเป็นคนที่ให้เวลาแก่ตนเอง อดอล์ ฮิตเลอร์ ชอบที่จะอยู่คนเดียวเงียบๆเพื่อที่จะจินตนาการ เพื่อที่จะคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เขาเป็นคนที่มีกำลังใจสูง ชอบวาดรูป
- หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุหรือพระธรรมโกศาจารย์ มีผลงานในการเผยแพร่ศาสนามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
ของงานเขียน การสร้างบุคลากรทางพุทธศาสนา การอบรม การให้ปัญญาแก่ผู้คน เราจะเห็นได้ว่าท่านจะเป็นผู้ที่มีสมาธิในการทำงานอย่างดีเลิศ ท่านจะนั่งคนเดียวเงียบๆในการเขียนหนังสือ เพราะการเขียนหนังสือต่างๆ ที่ออกมาอย่างมากมาย นั้นต้องใช้ความคิดเป็นอันมาก
เราจะเห็นได้ว่า บุคคลที่สำคัญๆ ในประวัติศาสตร์ของโลกหรือของประเทศ มักเป็นคนที่มีสมาธิในการทำงานที่สูง ชอบทำงานเงียบๆ โดยใช้ความคิดคนเดียว ดังนั้น หากท่านต้องการความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ท่านจงหาเวลาอยู่เงียบๆ ให้กับตัวเองทุกวัน เพราะการอยู่เงียบๆ จะทำให้ท่านรู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกสบายใจ ไม่เกิดความสับสนวุ่นวายและมีเวลาสำรวจตัวเองมากขึ้น การแบ่งเวลาอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง จะทำให้ท่านได้สัมผัสความเงียบโดยลำพัง แต่หากว่าท่านไม่มีเวลา 1 ชั่วโมงในแต่ละวันสำหรับตัวเอง ขอให้ท่านได้แบ่งเวลาให้กับตัวเองทุกๆวัน อย่างน้อยก็วันละ 10 นาที ในการทำสมาธิ หรืออยู่กับตัวเอง ท่ามกลางธรรมชาติ
โดยสรุปแล้วการอยู่กับตนเองเงียบๆ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งของชีวิต เพราะจะเป็นการสร้างความสมดุลให้แก่ชีวิตในท่ามกลางสังคมที่มีแต่เรื่องของการแข่งขัน เรื่องของข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหว ความอึกทึกและความสับสนในชีวิตของแต่ละวัน
...
  
การจัดการข้อมูล
การจัดการข้อมูล
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
www.drsuthichai.com
ในวันหนึ่งๆ พวกเรามักจะต้องเจอกับข้อมูล ข่าวสาร เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นจาก บทความ ข่าว เอกสาร และจากสื่อต่าง ๆ เช่น รายงาน หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และอินเตอร์เน็ต ฯลฯ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำงานกับข้อมูล ต้องใช้ข้อมูล การบริหารข้อมูล การจัดการข้อมูล จึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถทำได้ดังนี้
1.หากว่าคุณมีรายงาน มีเอกสาร มีหนังสือ ที่จะต้องอ่านเป็นจำนวนมาก ในขณะที่คุณยังไม่มีเวลาดู คุณควรอ่านอย่างคร่าวๆ ว่าเรื่องใดมีความสำคัญเร่งด่วน หากไม่มีความสำคัญเร่งด่วน หลังจากการดูคร่าวๆ แล้วคุณควรเก็บไว้ดูในภายหลัง
2.ตัดหรือเลือกบทความที่คุณสนใจ เพื่อเก็บไว้อ่านตอนมีเวลาว่างเช่น ตอนอยู่ในรถ ในเวลาพักผ่อน เมื่ออ่านเสร็จคุณควรใช้ปากกาขีดเส้นใต้ตรงข้อความสำคัญ หรืออาจมีการสรุปโดยย่อๆ เพื่อที่จะสะดวกต่อการอ้างอิงและใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต
3.บอกเลิกรับ หนังสือพิมพ์ วารสาร จดหมายข่าว นิตยสาร ที่ไม่มีประโยชน์สำหรับคุณ เพราะหลายท่านสมัครเป็นสมาชิกของสิ่งพิมพ์ต่างๆเป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่ามีบางฉบับที่ไม่เกิดประโยชน์หรือไม่สามารถนำเอาข้อมูลนั้นไปใช้ได้ จึงควรพิจารณาเลือกสิ่งพิมพ์ที่คุณคิดว่าเป็นประโยชน์ สำหรับที่ไม่เป็นประโยชน์ก็ควรบอกเลิกเสีย เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
4.ตัดข้อความหรือเขียนข้อมูลบางตอน บางบท บางหน้า ที่เป็นประโยชน์แล้วนำไปจัดเก็บใส่ในแฟ้ม อีกทั้งควรที่จะจัดการกับระบบแฟ้มโดยแบ่งออกเป็นเรื่องต่างๆ ควรเขียนชื่อเรื่องไว้ตรงหน้าแฟ้มเพื่อความสะดวกในการค้นหา เช่น เรื่องของการเมือง เรื่องของธุรกิจ เรื่องของสังคม เรื่องข้อมูลส่วนตัว ฯลฯ และถ้ามีข้อมูลมากขึ้นเราควรจัดเก็บโดยแบ่งแฟ้มเป็นประเภทต่างๆ เช่น แฟ้มข้อมูลหลัก แฟ้มข้อมูลย่อย แฟ้มข้อมูลเก่า แฟ้มข้อมูลอ้างอิง ฯลฯ การจัดเก็บอย่างเป็นระบบจะทำให้เราหาข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น
5.ควรใช้เทคโนโลยีช่วยในการจัดเก็บข้อมูล เช่น ซีร็อกซ์ข้อมูลบางหน้าที่ต้องการเพื่อจัดใส่ไว้ในแฟ้มข้อมูล , ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการจัดเก็บข้อมูล เป็นต้น
6.ควรมีการจัดระบบทำลายเอกสาร ทำลายข้อมูลที่ไม่มีความจำเป็นทิ้ง หน่วยงานใหญ่ๆ มักมีปัญหาเรื่องของเอกสารที่มีจำนวนมากมายมหาศาล เช่น การจัดเก็บข้อสอบเก่าๆ ของมหาวิทยาลัยต่างๆ หากเป็นข้อสอบเก่ามากๆ อีกทั้งไม่มีความจำเป็น บางมหาวิทยาลัยจึงมีระเบียบว่าให้มีการทำลายเอกสารข้อสอบเก่าๆ หลังจากเก็บไว้ 5 ปี เป็นต้น
การจัดการข้อมูล จึงเป็นศาสตร์และศิลป์ ศาสตร์ก็คือเราสามารถเรียนรู้ได้ ศิลป์ก็คือแต่ละบุคคลอาจจะมีการจัดการโดยใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่ไม่เหมือนกัน เช่น ในหน่วยงานธุรกิจอาจมีการจัดเก็บเอกสารเป็นแฟ้มต่างๆได้แก่ แฟ้มสินทรัพย์หมุนเวียน แฟ้มสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน แฟ้มหนี้สิน แฟ้มประกันภัย แฟ้มประวัติส่วนตัวพนักงาน ฯลฯ
อีกทั้งการจัดการข้อมูลที่ดี เราควรนำเอาระบบ 5 ส สะสาง-สะดวก-สะอาด-สุขลักษณะและสร้างนิสัย รวมทั้งนำระบบ ISO มาประยุกต์ใช้ในการจัดการข้อมูลตามความเหมาะสม ก็จะทำให้ข้อมูลที่มีการจัดเก็บเป็นระบบที่ดีมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น การจัดการข้อมูล จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เช่น ใช้เป็นหลักฐานในการทำงาน ใช้อ้างอิง ใช้ในการเป็นข้อมูลในการวางแผน แก้ไขปัญหา ตัดสินใจ ใช้เพื่อพิจารณาปรับปรุงงาน เป็นต้น
...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  [3]  [4]  [5]  [6]  [7]  [8]  [9]  [10]  [11]  [12]  [13]  [14]  [15]  [16]  [17]  [18]  [19]  [20]  [21]  [22]  [23]  [24]  [25]  [26]  [27]  [28]  [29]  [30]  [31]  [32]  [33]  [34]  [35]  [36]  [37]  [38]  [39]  [40]  [41]  [42]  [43]  [44]  [45]  [46]  [47]  [48]  [49]  [50]  [51]  [52]  [53]  [54]  [55]  [56]  [57]  [58]  [59]  [60]  [61]  [62]  [63]  [64]  [65]  [66]  [67]  [68]  [69]  [70]  [71]  [72]  [73]  [74]  [75]  [76]  [77]  [78]  [79]  [80]  [81]  [82]  [83]  [84]  [85]  [86]  [87]  [88]  [89]  [90]  [91]  [92]  [93]  [94]  [95]  [96]  [97]  [98]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.