หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ข่าวสาร
สินค้า
บริการ
แกลลอรี
เว็บลงค์
เว็บบอร์ด
ติดต่อเรา

บริการ

 รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
 บทความต่างๆ ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเสริมสร้างกำลังใจของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 สุนทรพจน์ของนักการเมือง
 บทความเกี่ยวกับการขายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับกฏหมายของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 บทความเกี่ยวกับการเขียนของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
 นักพูดทางการเมือง
 หนังสือ การพูด
 บทความต่างๆ ของนักพูด
 ประวัตินักขาย
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการขาย
 วาทะของคนดัง
 ประวัติ ทนายความ
 ประวัติอาจารย์นักพูด
 คลิปเสียงภาพ เกี่ยวกับกฏหมาย
 วิธีการสู่ความสำเร็จ
 บุคลิกภาพสู่ความสำเร็จ
 การบริการด้วยหัวใจ
 ผู้บริหาร
 Mind Map แผนที่ความคิด(หนังสือทางด้านการพูด)
 แนะนำหนังสือการเขียน
 ประวัตินักเขียน
 คลิปนักพูด
 แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
 คลิป นักพูดต่างประเทศ
 คลิป ประกอบการบรรยาย
 คลิปเสียงของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ เกี่ยวกับการพูด เช่น นักพูดชั้นนำทำกันอย่างไร , วิธีการปรับปรุงน้ำเสียง ,จะพูดให้ได้ดีต้องมีการเตรียมตัว,นักพูดที่ดีต้องมีการศึกษาและองค์ประกอบของนักพูดที่ดี
 คลิป ครูเคท บรรยาย
 คลิป หมู่บ้านพลัม
 สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
 สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
 พูดอย่างมีกึ๋น
 หนังสือ การทำงานเป็นทีม
 แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับการทำงาน
 ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
 คำคม
 รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
 สมชาย หนองฮี
 ดร.ผาณิต กันตามระ
 อ.อุสมาน ลูกหยี
 อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
 วสันต์ พงศ์สุประดิษฐ์
 รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ
 หมอพงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
 อาจารย์พนม ปีย์เจริญ
 อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
 รศ.วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
 อาจารย์วิชัย ปีติเจริญธรรม
 ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล
 กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์
 อาจารย์ถาวร โชติชื่น
 สิริลักษณ์ ตันศิริ
 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
 โต้วาที
 คะเณยะ อ่อนนาง
 ภก. ดร. ประชาสรรค์ แสนภักดี
 ประดิษฐ์ กิตติฤดีกุล
 ดร.โอภาส กิจกำแหง
 ประมวลสุนทรพจน์ ทักษิณ ชินวัตร
 ดร.อภิชาติ ดำดี
 อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
 การตลาด
 ทอล์คโชว์
 รวมคลิป ที่เกี่ยวกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน
 คลิป เรื่องการบริหาร
  -  การพัฒนาทรัพยากรบุคคล
  -  แม่ไม้นักบริหาร
  -  
  -  กลยุทธ์ทะเลสีน้ำเงิน
  -  กลยุทธ์ทะเลสีน้ำเงิน
  -  ผู้นำกับการจัดการ
  -  7 วิธีคิดอย่างคนเก่ง
  -  5 วิธีทำงานรวมกับคนที่ไม่ชอบหน้า
  -  เรื่องของ “อาวุธ” กับเรื่องของ “กลยุทธ์” เป็นของคู่กัน
  -  การจัดการกับความขัดแย้ง
  -  รับมือกับลูกทีมที่มีทัศนคติด้านลบ
  -  ผู้บริหารการเปลี่ยนแปลง
 คลิป บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจ
 เพลง ที่ให้กำลังใจ
 คลิป ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
 คลิป แรงบันดาลใจ
 คลิป สนุกๆ สร้างสรรค์
 การทำงานอย่างมีความสุข
 การจัดการองค์ความรู้ KM
 สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

กลุ่มสินค้า

 หลักสูตร พลังแห่งการพูด
 หลักสูตร พลังแห่งการบริการ
 หลักสูตร การทำงานเป็นทีมและการบริหาร
 หลักสูตร พลังแห่งการสื่อสาร
 ผลงานหนังสือ
 หลักสูตร พลังแห่งการขายและการตลาด
 หลักสูตร การทำงานด้วยหัวใจ
 อาเซียน
 หลักสูตรอื่น
 หลักสูตร การคิด
 มอบหนังสือ เพื่อการกุศล
Custom Search
สถาบัน Cap vision
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
 
 
  บริการ
รับงานบรรยายในหัวข้อต่างๆ
บทความต่างๆ  ของ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการพูดของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
บทความเกี่ยวกับการบริหารของดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
หนังสือ การพูด
สุนทรพจน์ JFK เคเนดี้
สุนทรพจน์ของลินคอล์นที่เก็ตตีสเบอร์ก
พูดอย่างมีกึ๋น
ท่านสามารถ ดาวน์โหลด ไหล์ PDF แนะนำหนังสือเกี่ยวกับการพูดได้
สมชาย หนองฮี
อ.พิษณุ สกุลโรมวิลาศ
สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย
   บริการ : คลิป เรื่องการบริหาร
รับมือกับลูกทีมที่มีทัศนคติด้านลบ
ด้วยความที่ดิฉันเป็นคนทีชอบซื้อหนังสือทางด้านบริหารไว้เยอะมาก เนื่องจากตัวเองมีโอกาสได้ไปสัมมนายังหน่วยงานภายนอกบ่อยครั้ง สิ่งหนึ่งที่จะเก็บเกี่ยวกับมาอยู่เสมอ ๆ นอกจากความรู้ในห้องเรียนแล้ว นั่นคือ หนังสือทางการบริหารที่ทางผู้จัดได้นำมาจำหน่ายหน้างาน ซื้อบ่อยจนมีอยู่ครั้งหนึ่ง ไม่สามารถซื้อหนังสือเล่มไหนกลับมาได้เลย เนื่องจากหนังสือที่วางขายในวันนั้น ดิฉันกวาดซื้อมาแล้วก่อนหน้า



เหมือนที่บอกค่ะ ว่าชอบซื้อ แต่มักจะไม่ค่อยได้มีเวลาเปิดอ่าน ยกเว้นบางครั้งจะหาข้อมูลเพื่อมาประกอบในงานที่ได้รับมอบหมาย



กุศโลบายอย่างหนึ่งที่ตัวเองมักจะใช้คือ การพยายามเขียนเล่าในshare.psu.ac.th ซึ่งส่งผลให้ตัวเองจะต้องอ่านหนังสือเล่มนั้น ๆ พร้อม ๆ กันไปด้วย



สำหรับบทความแรกที่จะนำเสนอใน blog ใหม่ ในวันนี้ คือ เรื่อง "รับมือกับลูกทีมที่มีทัศนคติด้านลบ"



ซึ่งบทความดังกล่าวเขียนโดย คุณอภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา ซึ่งได้เขียนเล่าให้ฟังว่า ได้มีผู้มาขอคำปรึกษาถึงวิธีการรับมือกับลูกทีมที่มีทัศนคติด้านลบ โดยเธอเล่าว่า เธอเพิ่งจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าทีมงานฝ่ายขายของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และจะมีลูกทีมคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นคนที่มีทัศนคติในด้านลบตลอดเวลา สามารถบ่นได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่นโยบายของบริษัท ไปจนถึงดินฟ้าอากาศ ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากการบ่นของเขาไม่ทำให้คนในทีมรู้สึกเบื่อหน่ายและท้อถอยตามไปด้วย



นอกจากนี้ ด้วยทัศนคติในแง่ลบของเขา โดยเฉพาะกับเป้าหมายและงานต่าง ๆ ที่ทำ ทำให้เขาทำงานแบบไปวัน ๆ หรือทำแบบขอไปที ซึ่งทำให้คนที่รับงานต่อ ต้องมาสางปมและแก้ไขงานนั้น ๆ อยู่เสมอ



แนวทางแก้ไขวิธีแรกคือ ต้องหาสาเหตุให้พบว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้เขามีความคิดเช่นนั้น ซึ่งผู้เขียนได้ยกตัวอย่างปัจจัยไว้ดังนี้

1. ผิดหวังที่ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง หรือไม่ได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง

2. รู้สึกไม่ได้รับความสนใจจึงเรียกร้องด้วยวิธีการดังกล่าว

3. จำเป็นต้องกลบเกลื่อนทักษะหรือความรู้บางอย่างที่รู้ไม่จริง เป็นต้น

โดยมีวิธีการรับมืออยู่ 3 ขั้นตอน คือ

1. สร้างความเข้าใจ โดยหาโอกาสพูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมบางอย่างของเขา เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและแสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่ไม่ถูกต้อง

2. สลับขั้วความคิดเห็น ความคิดเห็นเชิงลบ บั่นทอนกำลังใจของคนทำงานและไม่มีประโยชน์อันใด ควรสร้างกติกาว่า หากใครในทีมแสดงความคิดเห็นในแง่ลบออกมา เขาคนนั้นต้องบอกเหตุผลให้ชัดเจนและมีข้อเสนอแนะตามมาด้วยเสมอ โดยใช้คำว่า "เพราะ" และ "ถ้า" ให้มากขึ้น

3. ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด หากคุณให้โอกาสพนักงานและพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น ขั้นตอนสุดท้ายคือ การใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ด้วยการลงโทษเพื่อให้เกิดความหลาบจำ

หากคุณปล่อยให้คนที่มีทัศนคติเชิงลบยังคงทำหน้าที่ทำลายขวัญและกำลังใจของคนอื่นอยู่ในทีมต่อไป นอกจากคุณจะไม่ได้งานจากพนักงานคนนี้แล้ว ยังทำให้ผลการทำงานของคนอื่น ๆ ในทีม ค่อย ๆ ลดลงตามไปด้วย



หวังว่าบางความคิดเห็นของบทความนี้ คงมีบางส่วนให้ใครที่เป็นหัวหน้าทีมงาน แล้วเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ ได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมเข้ากับบริบทของหน่วยงานตนเอง ได้บ้าง

อย่างไรก็ตามการประนีประนอม และรู้จักอลุ้มอล่วยต่อกัน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ



ที่มา : จดหมายข่าวรายเดือน สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ปีที่ 11 ฉบับที่ 127 ตุลาคม 2553





หมวดหมู่: บริหารทรัพยากรมนุษย์
คำสำคัญ: hr article human resourse กองการเจ้าหน้าที่ งานพัฒนาและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
สร้าง: พฤ. 18 พ.ย. 2553 @ 14:33 แก้ไข: พฤ. 18 พ.ย. 2553 @ 15:13 ขนาด: 9038 ไบต์
ความคิดเห็น
หน้า: 1

1. คนข้างหลัง
เมื่อ พ. 24 พ.ย. 2553 @ 00:56
61808 [ลบ]


ขอยืมเอาไปใช้หน่อยนะคะ

หน้า: 1

กดที่นี่เพื่อเพิ่มความคิดเห็น
(หน้าต่างใหม่สำหรับให้ความคิดเห็นจะถูกเปิดขึ้น) ประวัติ


รัตติยา เขียวแป้น
งานพัฒนาและฝึกอบรม กองการเจ้าหน้าที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
มีต่อ »

อีเมลติดต่อ

คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พัฒนาบุคลากร พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บุคลากร การจัดการความรู้ knowledge management km กองการเจ้าหน้าที่ งานพัฒนาและฝึกอบรม สำนักงานอธิการบดี
เกี่ยวกับบล็อกนี้
สารบัญ
รายการคำสำคัญที่ใช้
คำสำคัญ
กองการเจ้าหน้าที่ งานพัฒนาและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

พฤศจิกายน 2553
พฤศจิกายน 2553
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30

เป็นการนำเสนอบทความดี ๆ ที่เกี่ยวข้องด้านการบริหารงาน ที่ได้พบเจอมา มาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ สมาชิกใน share ได้ร่วมรับรู้ และยังใช้เป็นแหล่งอ้างอิงข้อมูลเพื่อใช้ในงานด้านฝึกอบรมที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ได้อีกทางหนึ่งด้วย
บทความทางการบริหาร
home / blog / padadmin / 17864
ติดต่อ รัตติยา เขียวแป้น หรือ ติดต่อผู้บริหารเว็บไซต์ + Powered by KnowledgeVolution - a product of TRF & KMI
...
  
ผู้บริหารการเปลี่ยนแปลง
ปัจจุบัน จะเห็นได้ชัดว่ามีการเปลี่ยนแปลเกิดขึ้นในโลกของเราเป็นอย่างมากในแทบทุก ด้านไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ซึ่งเรื่องของการเปลี่ยนแปลงนี้มีทั้งแบบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยตรง อาจเกิดขึ้นตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงล่วงเลยไป แต่การเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นผู้ทำให้เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะทำโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากมนุษย์มักจะก่อให้เกิดผลที่รุนแรงรวดเร็ว และมักเกิดความกระทบกระเทือนต่อการดำเนินชีวิตและความเป็นอยู่ของพลเมืองโลก โดยตรง ถ้ามองการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมจะเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ด้านในปัจจุบันที่เห็นเด่นชัด คือ การเปลี่ยนแปลงด้าน การต่างประเทศ ด้านเทคโนโลยี การติดต่อสื่อสาร การคมนาคม ขนส่ง สื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และด้านสังคม เป็นต้น ในการเปลี่ยนแปลงนี้มีการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษารวมอยู่ด้วย โดยเฉพาะเมื่อกล่าวถึงการศึกษาของไทยจะเห็นว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก นับแต่มีการปฏิรูปการศึกษา ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับล่าสุด พ .ศ.2540 ซึ่งได้กำหนดให้มี “กฎหมายการศึกษาแห่งชาติ” และจัดให้มี “การปฏิรูปการศึกษา” ตามความในมาตรา 81 ที่ว่า “…จัดให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาแห่งชาติ ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม…” การเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา ครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังที่เห็นจากการกำหนดเป็นประเด็นสำคัญอย่างชัดเจนใน รัฐธรรมนูญอันเป็น กฎหมายหลักของประเทศ และการกำหนดให้มีการร่างกฎหมายพิเศษเฉพาะทางการศึกษา ฉะนั้น เราทุกคนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารการศึกษาจึงควรให้ความสำคัญและจะต้อง ให้การเอาใจใส่อย่างมากที่จะศึกษาแนวทางของการศึกษาที่จะเปลี่ยนแปลงไป และเตรียมตัวให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในสถานศึกษาที่กำลังเกิดและจะเกิด ขึ้น
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในสถานศึกษา
ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษานั้นอาจแบ่งได้เป็น 2 อย่าง คือ
1) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากปัจจัยภายนอก
2) การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากปัจจัยภายใน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากปัจจัย ภายนอกมีมาก และมักจะเป็นส่วนสำคัญก่อผลกระทบมากมายต่อสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานศึกษา และต่อการบริหารการศึกษา อิทธิพลจากปัจจัยภายนอกอย่างกว้าง ๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในสถานศึกษา ได้แก่ สภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความเจริญทางเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากปัจจัยภายใน ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของระบบงาน นโยบาย การบริหาร คน และ งบประมาณของสถานศึกษานั้น ๆ เอง เป็นต้น ก่อนอื่นผู้บริหารต้องเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสถานศึกษานั้น อาจเกิดได้ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน และล้วนมีส่วนก่อให้เกิดผลกระทบต่อการบริหารการศึกษา การจัดการเรียนการสอน และที่สำคัญที่สุดก็คือ การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นที่แน่นอนว่าไม่ว่าทางใด ก็ทางหนึ่งในที่สุดแล้วก็จะต้องมีผลกระทบต่อตัวนักเรียนซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของการจัดการศึกษานั่นเอง
โดยทั่วไปแล้วการเปลี่ยนแปลงภายในมักเกิดเนื่องจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง ของปัจจัยภายนอก แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในองค์กรหรือสถานศึกษาที่เกิดจากผลของ ปัจจัยภายในเองโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราพิจารณาดูให้ดีจะพบว่า ปัจจัยภายในที่มีผลกระทบก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาก ที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ เรื่องของคนในสถานศึกษานั่นเอง บุคลากรมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในอย่างมาก ซึ่งบางครั้งการเปลี่ยนแปลงในอันเนื่องมาจากคนนี้อาจเกิดขึ้น โดยปราศจากสาเหตุหรืออิทธิพลของปัจจัยภายนอกอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องที่เกิดจากความรู้สึกนึกคิดของคนในองค์กรนั่นเอง และคนที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในองค์กรหรือสถานศึกษามากที่สุดก็ไม่ใช่ ใครอื่นแต่คือ ผู้บริหารสถานศึกษานั่นเอง บางครั้งการที่ผู้บริหารเปลี่ยนแปลงความคิดเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ ไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้วิสัยทัศน์อันก้าวไกลหรือไม่ก็ตามผลที่เกิดก็คือ ผู้บริหารท่านนั้นสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้อย่างไม่คาดฝัน คงจะเคยได้ยินกันว่าครูอาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ๆ อาจไม่ทันตั้งตัวอาจมีคำสั่ง แบบสายฟ้าฟาดเมื่อใดก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร การเข้ามารับตำแหน่งใหม่ การใช้อำนาจการตัดสินใจเป็นการแสดงให้คนที่อยู่ในองค์กร และแม้กระทั่งผู้ที่เกี่ยวข้องนอกองค์กรได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงการถ่าย เทอำนาจ ซึ่งแม้ว่าในทางบริหารถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ และมีคำพูดทางการบริหารที่ผู้บริหารสากลยอมรับคือ “อำนาจเป็นธรรมชาติ” แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เช่นนี้ย่อมไม่เป็นผลดีเพราะเมื่อใดก็ตามที่เกิดการเปลี่ยนแปลงย่อมต้องมี การต่อต้าน และถ้าการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นโดยไร้สาเหตุที่สมควร การต่อต้านย่อมมีมากขึ้นตามไปด้วย
นอกจากผู้บริหารแล้ว ตัวบุคลากรอื่น ๆ ก็เป็นปัจจัยภายในการเปลี่ยนแปลงด้วย การที่บุคลากรต่อต้านไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บริหาร ไม่รักษาระเบียบวินัย ไม่ให้ความร่วมมือหรือใส่ใจในการปฏิบัติหน้าที่ก็เป็นสาเหตุให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงต่อประสิทธิภาพขององค์กรทั้งสิ้น
เรื่องของระบบงาน เรื่องของนโยบาย เรื่องของวิธีการบริหาร ตลอดจนเรื่องของงบประมาณก็เป็นปัจจัยภายในที่มีผลต่อการบริหารการเปลี่ยน แปลงอย่างมากด้วย การที่นโยบายเปลี่ยนแปลงจะมีผลต่อการทำงานมากบางกรณีอาจกระทบทั้งระบบงาน เพราะนโยบายเปรียบเสมือนหลักการสูงสุดที่ทั้งผู้บริหารและบุคลากรทั้งหมด ต้องยึดถือและปฏิบัติตาม เมื่อมีการเปลี่ยนหลักการใหญ่ที่สุดขององค์กรสิ่งต่าง ๆ ที่เคยปฏิบัติกันมาย่อมใช้ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่สอดรับกับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงใหม่ด้วย แน่นอนเมื่อนโยบายเปลี่ยน ระบบงานที่เคยมีอยู่ ใช้อยู่ก็ต้องได้รับความกระทบกระเทือน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง วิธีการบริหารก็อาจต้องเปลี่ยนแปลงตามไปเพื่อให้เกิดความสอดคล้องหรือสมดุล กันให้มากที่สุด
ส่วนใหญ่แล้ว ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากปัจจัยภายในมักเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องสัมพันธ์กัน เหมือน งูกินหางแทบจะแยกอันไม่ออกแต่เท่าที่แบ่งเป็นเรื่อง ๆ ไปนี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นชัดเจนขึ้นในเรื่องของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละ ปัจจัย การบริหารความเปลี่ยนแปลงในกรณีที่การเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดจากภายใน จึงเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนและค่อนข้างจะจัดการยากเพราะแต่ละปัจจัยมักจะมี ความสัมพันธ์ระหว่างกันเสมอ
นอกจากการมีวิสัยทัศน์ที่ดีมีความระวังระไวตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลง ผู้บริหารต้องศึกษาให้รู้ถึงอิทธิพลกระทบของการเปลี่ยนแปลง ต้องรู้จักวิเคราะห์ตรวจสอบปัญหา แล้วจึงสร้างและพิจารณาเลือกใช้กลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหา ต้องเรียนรู้ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่อาจมีในการแก้ไขปัญหาเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอแล้ว ผู้บริหารต้องเตรียมการรับการต่อต้านที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนการ ควบคุมดำเนินการตามกลยุทธ์ และการประเมินผล
ทั้ง นี้ ต้องคำนึงถึงขนาดและความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยย่อมมีผลกระทบต่อองค์กรและการดำเนินการน้อย ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ย่อมมีผลกระทบต่อองค์กรและการดำเนินการอย่าง มาก ผู้บริหารยังต้องคำนึงถึงการคัดเลือกการรับบุคลากรควรจะเลือกคนที่มีความ สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายอีกด้วย ในกรณีที่ผู้บริหารเป็นผู้ต้องการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเสียเอง หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่าเป็น Change Agent ผู้บริหารก็จะต้องพิจารณาถึงความจำเป็นในการที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงด้วย ในกรณีนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดที่ไม่อาจลืมได้ก็คือ การเตรียมพร้อมเพื่อรับการต่อต้าน เพราะเป็นความจริงทางธรรมชาติ ที่ว่า ที่ใดมีการเปลี่ยนแปลงย่อมต้องมีการต่อต้านเกิดขึ้นบ้างไม่มากก็น้อยเป็น ธรรมดา เมื่อผู้บริหารใช้การบริหารการเปลี่ยนแปลงโดยธรรมชาติแล้วมักทำให้ผู้บริหาร ต้องตกที่นั่งของ Change Agent ซึ่งผู้บริหารเป็นผู้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงจากภายนอกผู้บริหารควรจะต้องจัดการในเรื่องต่อไป นี้ คือ เรื่องของทัศนคติความเชื่อและความคิดเห็นของบุคลากรต้องพยายามทำให้บุคลากร เห็นพ้องกับตนในเรื่องของการเปลี่ยนแปลง เรื่องของพฤติกรรมและการกระทำต่าง ๆ ของบุคลากรต้องสามารถควบคุมให้ทุกคนในองค์กรมีพฤติกรรมและกระทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ขานรับกับการเปลี่ยนแปลงเรื่องของโครงสร้างขององค์กรต้องปรับเปลี่ยนให้ รับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แม้กระทั่งเรื่องของอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ ต้องจัดการให้มีอยู่ในสภาพที่จะรับการเปลี่ยนแปลงได้การแก้ไขต้องทำการวาง แผนแก้ปัญหาและทำงานเป็นทีม ผู้บริหารต้องวางนโยบายที่สอดรับชนิดที่เรียกว่าเป็นการเผชิญหน้ากับความ เป็นจริงที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ เรื่องข้อมูลต้องแม่นยำ ถูกต้องและเพียงพอเพื่อสามารถนำไปกำหนดแนวทางในการดำเนินการได้ถูกต้องด้วย ผู้บริหารต้องรู้จักการวิเคราะห์สถานการณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างชาญฉลาดเพื่อการแก้ไขผู้บริหารต้องรู้จักที่จะ เปลี่ยนวิกฤติให้กลายเป็นโอกาส โดยอาศัยช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ในการตรวจสอบตัวเองอย่างถี่ถ้วน ว่าทิศทางขององค์กรของเราควรจะเป็นไป หรือดำเนิน ไปในทางใด ก็จะให้องค์กรสามารถยืนหยัดอยู่ได้ หรือในกรณีที่ได้เกิดความเสื่อมถอย ทรุดลงไปแล้วถ้า ผู้บริหารรู้จัดการบริหารการเปลี่ยนแปลง การดำเนินการก็จะสามารถกลับฟื้นตัวขึ้น เพื่อรับการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบได้ในทิศทางที่ยั่งยืนบนหลักการของการเจริญ เติบโต ตามความเป็นจริงโดยอ้างอิงทรัพยากรขององค์การและทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งนี้ ผู้บริหารควรต้องคำนึงถึงการในระดับกว้างให้ถึงขั้นระดับชาติ ผู้บริหารต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับนโยบายรัฐโดยสามารถที่จะสร้างนโยบาย และมาตรการที่สอดคล้องกับรัฐและองค์กรที่เป็นพันธมิตรในการดำเนินการ ก็จะทำให้องค์กรดำเนินการ ต่อไปได้ และสามารถผ่านพ้นวิกฤติแห่งการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ ผู้บริหารต้องสร้างนโยบายที่มีเสถียรภาพเป็นที่ยอมรับทั้งจากคนภายในและภาย นอก และจะต้องเป็นนโยบายที่สามารถนำไปใช้ปฏิบัติในการดำเนินการบริหารองค์การได้ จริง ทั้งยังต้องคำนึงถึงการรักษาระเบียบ วินัยขององค์กรอย่างเคร่งครัด
การแสวงหาข้อมูลและการให้ข้อมูลแก่ผู้เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกให้ถูก ต้อง และมากเพียงพอที่จะนำไปใช้การวางแผนรับการเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ก็นับเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริหารองค์การจะต้องให้ความเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง ต้องจัดให้มีการพัฒนาปรับปรุงระบบการจัดหาแลกระจายข้อมูลและให้มีการประสาน กับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างดี อีกทั้งยังต้องสามารถทำให้ทุกฝ่ายในองค์กรรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องเข้าใจและยอม รับถึงการร่วมมือการ เพื่อการตั้งรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและเพื่อแก้ไขปัญหาที่จะมีตามมา ด้วย
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันส่วนใหญ่มักเกิดจากปัจจัยภายนอก ซึ่งบางอย่างที่เราไม่สามารถคาดการณ์ล่วงรู้ได้ล่วงหน้า ยังให้เกิดความเปลี่ยนแปลงผันผวนขึ้นต่อการดำเนินกิจการขององค์การ ดังนั้น ผู้บริหารจึงต้องรู้จักบริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อรับกับการเสี่ยงได้ อัตราการความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่บางครั้งประมาณการยาก และคาดการณ์ผลกระทบลำบากเพราะเหตุการณ์ที่เกิดมาจากปัจจัยภายนอกที่อาจขยาย กว้างขึ้นคลอบคลุมการดำเนินการในหลาย ๆ ส่วนขององค์กร ผู้บริหารต้อง รู้จักทำสมาธิสร้างความแข็งแกร่งในในให้สูงพอที่จะฟันฝ่าอุปสรรค โดยรู้จักบริหารท่ามกลางความเสี่ยงด้วยการอาศัยการตัดสินใจที่อ้างอิงข้อมูล ที่ถูกต้อง และต้องเป็นการตัดสินใจที่เฉียบขาดทันต่อเวลาและ เหตุการณ์ด้วยอาการที่ไม่ตื่นตระหนก เพราะถ้าผู้บริหารซึ่งถือว่าเป็นผู้นำเป็นหลักขององค์กรเกิดความกลัวความ ตื่นตระหนกต่อการเปลี่ยนแปลงแล้ว บุคลากรอื่น ๆ ในองค์กรจะเกิดอาการเสียขวัญทำให้เกิดการทำงานที่ขาดสติ การทำงานตามที่ควรจะเป็นไปตามหลักการและความเป็นจริงก็จะไม่สามารถทำได้ ทำให้เกิดผลเสียต่อองค์กร
นอกจากที่ผู้บริหารต้องรู้จักการบริหารการเปลี่ยนแปลงท่ามกลางความเสี่ยง แล้ว ผู้บริหารที่ดียังต้องรู้จักการปลุกจิตสำนึกของคนในองค์กรในอันที่จะเตรียม พร้อมกับการเปลี่ยนแปลง ตามสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น การเตรียมตัวที่ดีจะทำให้สามารถรับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและสามารถแก้ไข ปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
การเปลี่ยนแปลงนโยบายให้ทันรับกับเหตุการณ์และความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น การรู้จักยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน การรู้ว่าสิ่งใดต้องทำก่อนสิ่งใดควรทำหลัง สิ่งใดที่พอที่จะมีหวังที่จะสามารถแก้ไขได้ ผู้บริหารก็จะต้องดูแลก่อนสิ่งใดที่จำเป็นต้องตัดทิ้งก็จะต้องทำ โดยไม่เสียดายเพราะการเก็บเอาไว้อาจเป็นการ ฉุด รั้ง ให้องค์กรต้องถอยหลังไปอีก ต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการหรือกิจกรรมที่อยู่ในแผนให้ดี ต้องพิจารณาเรื่องความสามารถขององค์กรซึ่งอันนี้รวมไปถึงความสามารถของ บุคลากรในการที่จะผลิตผลงานที่มีประสิทธิภาพให้สูงสุด การจัดการด้านการเงิน เรื่องต้นทุน ค่าใช้จ่าย กำไรต่าง ๆ ตลอดจนดูแลเรื่องความคุ้มทุน
ระบบการบริหารในองค์กรก็ต้องสร้างให้เป็นแบบกลยุทธ์ในเชิงกรุกมากกว่าเชิง รับ หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการบริหารที่ต้องใช้วิธีเฉพาะหน้าให้ได้มากที่สุดเท่า ที่จะทำได้ เพราะการบริหารวิธีเฉพาะหน้ามักจะมี จุดอ่อนในตัวทำให้เกิดความเสี่ยงสูง เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นสิ่งที่ผู้บริหารจำเป็นต้องใส่ใจและดูแลให้เกิด
ผลในทางปฏิบัติให้ได้ จึงจะนับว่าผู้บริหารท่านนั้นรู้จักการบริหารการเปลี่ยนแปลง
จาก ที่ผู้ศึกษาได้ศึกษา เรื่องราวเกี่ยวกับการบริหารการศึกษาและเรื่องเกี่ยวกับภาวะผู้นำ เห็นว่าเรื่องเกี่ยวกับการยอมรับการเปลี่ยนแปลง ความเป็นมาเป็นไป ของสังคมของโลกในยุคปัจจุบัน การเปิดใจกว้างเป็นกระบวนการทางความคิด ที่ยอดเยี่ยมหากผู้บริหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารในองค์กรใดๆก็ตาม ไม่เฉพาะในวงการ การศึกษาเท่านั้น ...
  

    จำนวนหน้า : [1]  [2]  

หนังสือ พูดอย่างมีกึ๋น
ศิลปะการขาย
วาทะวาที

  Copyright @ 2010 drsuthichai.com All Rights Reserved.  Powered by ThaiWeb.  Admin Business Online 
Popularne pozyczka 5000 kasa stefczyka tarnów, dzięki nowelizacjom w prawie, są coraz pozyczka do 3 osób. Nowe regulacje mają na celu ochronę konsumentów i objęcie większym nadzorem procedur udzielania pożyczek pozabankowych chwilówki plac wolności rzeszów x kom. Nowe przepisy opierają się na pożyczki dla zatrudnionych na czarno góra zmianie ustawy o nadzorze nad rynkiem finansowym net credit splata pozyczki irlandia. Weszły one w życie z dniem 11 marca 2016 r. chwilówka dla studenta ranking Poniżej zamieszczamy ich przegląd. Firma pożyczkowa musi dysponować minimalnym kapitałem początkowym w wysokości 200 tys. zł – kapitał ten nie może pochodzić z pożyczek eurobank pożyczka online pl. W ten sposób postarano się wyeliminować z rynku małe firmy, które powstawały tylko po to, aby w jak najkrótszym czasie oszukać rzesze klientów udzielanie pożyczek zwolnione z vat. Nadzór nad firmami pożyczkowymi może prowadzić Komisja Nadzoru Finansowego z o.o. udziela pożyczki vivus. KNF w razie wątpliwości może objąć monitoringiem warunki oferowanych pożyczek pożyczka 3000 online. Firma pożyczkowa, która utrudni działania czy umowa pożyczki może być bez odsetek hipotecznych, może zostać obarczona karą do 500 tys. zł credit agricole kredyt mieszkaniowy kalkulator. Niektórzy eksperci uważają, że optymalna karą za nielegalne praktyki, byłoby 1 mln zł. wynagrodzenie z tytułu pożyczki hipotecznej Ustalono także, że wszystkie koszty pożyczki nie mogą być wyższe niż 100% kwoty udzielonej koszty umowy pożyczki rodzinnej, uwzględniając cały okres kredytowania czesc pozyczki hipoteczne. Ponadto maksymalne opłaty oraz odsetki z tytułu opóźnień w umowa pożyczki od wspólnika spółki cywilnej uchwała spłacie nie mogą przekraczać 6-krotności stopy lombardowej kredytu ustalanej przez NBP pożyczka z zfśs a zwolnienie szpitalne. Koszty udzielenia pożyczki nie mogą przekroczyć 25% kwoty udzielonej pożyczki pożyczki bez bik poznan poland, a koszty pozaodsetkowe w skali roku nie mogą być większe niż 30% gdzie dostać kredyt dla zadłużonych. Chwilówki mogą być obarczone odsetkami ustawowymi tarnow pozyczki bez qica, czyli maksymalnie 4-krotnością kredytu lombardowego NBP pożyczka na doposażenie stanowiska pracy chomikuj.